ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ล้อแม็ก ถือเป็นสิ่งที่นักแต่งรถให้ความสำคัญเลือกขันสรรหานำมา ทำให้รถคู่ใจดูสวยงาม
แต่ล่าสุดจากประกาศในการขึ้นทะเบียน “ล้อแม็ก” เป็นสินค้าควบคุม ตามประกาศของ บอร์ด สมอ. หรือ คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) แม้หลายคนอาจจะเลื่อนผ่าน แล้วก็แค่รับรู้ … แต่เรื่องนี้อาจสำคัญมากกว่าที่หลายคนคิด
ตามข้อมูลที่ออกมาจากหลายสื่อระบุว่าสาเหตุที่ กมอ. ตัดสินใจขึ้นทะเบียนล้อแม็กทุกประเภท ไม่ว่าจะทั้งที่ทำจากเหล็กกล้า โลหะผสมอะลูมิเนียม และโลหะผสมแมกนีเซียม ให้เป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากวงล้อรถยนต์ที่ความสำคัญในการขับขี่ ทั้งในแง่สมรรถนะ รวมถึงความปลอดภัย.ในการใช้งาน
ดั้งเดิมทีล้อแม็ก เป็นสินค้าที่ไม่ได้บังคับควบคุมผู้ผลิต หรือทำการตลาดสามารถนำมาขอมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. ได้ตามความสมัครใจ
เรื่องนี้จะเปลี่ยนไปเมื่อประกาศใหม่ เป็นการบังคับให้ผู้ผลิตต้องมาดำเนินการทำตามระเบียบให้ถูกต้อง จึงจะสามารถออกวางจำหน่ายให้แก่ประชาชนได้
จุดเปลี่ยน ล้างไพ่ ล้อแท้-ล้อปลอม
ปัจจุบันเมื่อมองไปในตลาด เราจะว่าล็อแม็กที่วางจำหน่ายมีมากมายหลายนี่ห้อในประเทศ แต่นักแต่งรถทั้งหลายจะได้ยินคำว่า ล้อแท้-ล้อปลอม กันมายาวนาน
ล้อแท้ – ล้อปลอม ถ้าตีความตามความเข้าใจของผู้เขียน หมายถึงล้อที่ทำลวดลายเหมือน กับชุดล้อบางรุ่นในต่างประเทศ แต่ผลิตด้วยต้นทุนต่ำกว่า อาจไม่ได้นำไปผ่านมาตรฐานทางอุตสากรรม ตามที่กมอ. บอกว่าทั้งหมดเป็นไปในความสมัครใจ

แต่จากนี้ไป ล้ออัลลอย ที่จะขายให้ลูกค้า โดยเฉพาะล้อรุ่นใหม่ๆ จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพทั้งหมด
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของผู้ผลิต ไม่ใช่ผู้ใช้ หากในความจริงคนที่ได้ประโยชน์เต็มคือ ผู้ใช้ ไม่ใช่แค่ความปลอดภัย
แต่หมายความว่า ล้ออัลลอย ที่เราจะซื้อต่อไปมั่นใจได้แน่ ด้วยมาตรการตรวจสอบคุณจากหน่วยงานของภาครัฐโดยตรง ไม่ต้องมาสุ่มเสี่ยงเดาว่า ล้อที่เราซื้อจะวางใจได้ไหม ตกหลุมกระแทกแรง จะเกิดความเสียหาย จนนำไปสู่อุบัติเหตุหรือเปล่า
ในภาพหนึ่ง มันคือการล้างไพ่ คำว่า ล้อแท้-ล้อปลอม จะเหลือเพียงล้อที่อาจจะแบ่งตามคุณภาพกระบวนการผลิต ที่มีความแตกต่างกัน อาจะมีเรื่องของความเบา รวมถึง ลวดลาย
แม้ว่า สมอ.อาจไม่ใช่กรมทัพย์สินทางปัญญา แต่มีความเป็นไปได้ที่ต่อจากนี้ การขึ้นทะเบียน จะต้องอ้างอิงระหว่างกัน อาจเป็นไปได้ที่ล้อแม็ก จะต้องมีลายไม่ซ้ำกันก่อนผ่านสู่การตรวจคุณภาพ
ราคาแพงขึ้นแน่
เมื่อภาครัฐระบุให้มีการผ่านการตรวจคุณภาพล้อแม็กโดยสมอ. สิ่งที่ตามมาในทันที คือ ราคาจำหน่าย ล้อแม็กจะแพงขึ้นในอนาคต
เดิมทีล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว จำหน่ายอยู่ที่วงละ 4,000-5,000 บาท อาจมีราคาเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันอีกระดีบหนึ่ง เนื่องจากการต้องเข้าไปผ่านมาตรฐานมอก.
ทำให้ล้อทุกชนิดที่จะวางขายจะมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งดีในแง่การใ้ชงานและความปลอดภัย แต่ใครที่ต้องการแต่งรถก็คงต้องยอมจ่ายเพิ่มขึ้น แลกกับความสวยงามและความแตกต่าง
อย่างไรก็ดี ,เรื่องนี้ไม่กระทบกับราคารถใหม่ เนื่องจากบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ มักจะมีข้อบังคับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่จะป้อนให้โรงงานผลิต ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานข้อบังคับที่กำหนดอยู่แล้ว
แม็กมือสอง จ่อเหนื่อย
อย่างไรก็ดี, ตลาดล้อแม็กในไทย ยังมีกลุ้มล้อแม็กใช้แล้ว หรือ แม็กมือสอง ซึ่งปัจุจบันมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ นำเข้าจากนอกประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น และอีกกลุ่ม คือถอดออกจากรถที่ใช้ในประเทศไทย
ในมุมกลุ่มนำเข้า แม้จะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เนื่องจากจะบังคับใช้ภายในปี พ.ศ. 2569 หรือ ปีหน้า แต่เป็นไปได้ว่า คนนำแม็กเข้ามาขาย จะต้องเข้าไปผ่านกระบวนการสมอ.เช่นกัน
ปัญหาสำคัญ คือมีความวุ่นวายทางด้านเอกสาร และ เวลารอตรวจสอบคุณภาพ ตามคิว ซึ่งจะส่งผลให้ต้องตั้งราคาแพงขึ้น และถ้าไม่ใช่ลายยอดนิยม อาจไม่ต่างจากการตัดตอนวงจรไป
ในส่วนของกลุ่มล้อที่ถอดจากในไทย หมายความว่าราคาแม็กปีเก่า จะตกลงอย่างเละเทะ แทบจะทันทีที่ระบเบียบนี้บังคับใช้ เนื่องจากคนที่จะซื้อคือคนทีกล้าเสี่ยง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่รู้จักล้อแม็กดังกล่าว
นอกจากนี้ อาจมีความเป็นไปได้ที่การขายล้อแม็กไม่ได้มาตรฐานในอนาคตจะเข้าข่ายผิดกฏหมาย ในอนาคต แม้ว่าจะไม่มีใครมาตามจับคุณจริงจัง แต่คนซื้อก็หวั่นใจ ทำให้แม็กเก่อาจไร้ค่า
ดังนั้น เมื่อมองในภาพรวมโดยสรุป การบรรจุ “ล้อแม็ก” เป็นสินค้าควบคุม ในแง่หนึ่งเป็นเรื่องดีต่อคนที่มองหาล้อไว้ใช้งาน แต่ในอีกด้านก็อาจจะเป็นประเด็นต่อการทำให้สินค้าที่มีอยู่ในระบบเสี่ยงผิดฏหมาย
ไม่ว่า แม็กเก่ามือสอง หรือยังค้างสต๊อก ไปจนถึงแม็กใหม่ที่ยังไม่ถูกซื้อหาไปใช้งาน
ที่แน่ๆ มันคือการล้างภาพ แดนไทยของปลอมเพียบ เพราะต่อจากนี้ ล้อแม็กจะลบภาพความปลอม แต่จะแข่งขันด้วยคุณภาพ เฉกเช่นกับ ในต่างประเทศ