ในบรรดารถยนต์อเนกประสงค์ที่วางจำหน่ายทั่วโลก แบรนด์รถยนต์ Subaru อาจไม่ได้มียอดขายมากมายนัก แต่กับผู้ใช้ในอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ มันกลับครองใจผู้ใช้อย่างมาก ด้วยเหตุผลบางอย่าง อันเป็นหัวใจสำคัญ และวันนี้ด้วยดีเอ็นเอเดียวกันก็มาถึงชาวไทย
อะไรเป็นสูตรลับ ทำให้ Subaru มีความแข็งแกร่งจนประสบความสำเร็จในรถยนต์อเนกประสงค์ หลายคนอาจสงสัย จากค่ายรถซิ่งสมรรถนะสูง มาสู่รถอเนกประสงค์เพื่อครอบครัว ทำได้อย่างไรกัน เรื่องนี้ไม่เพียงแค่บริษัทที่มีความใส่ใจเท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องกลายเป็นปัจจัยตอบลูกค้าด้วย
1.ภายในสะดวกสบาย
การออกแบบภายนอกอาจดูเผินๆ รถบางรุ่นอาจดูเหมือนรถสำหรับคุณลุงด้วยซ้ำไป แต่สิ่งที่ซูบารุทุกรุ่น มีเหมือนกัน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในการสร้างรถอเนกประสงค์ คือ การต้องมีความสะดวกสบายเสริมให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชื่อลือชา ดูจะไม่พ้น Subaru Forester
มันมาพร้อมดีเอ็นเอ ออกแบบประตู ทั้งบานหน้า -หลังให้ใหญ่ รวมถึงโครงสร้างห้องโดยสาร มีความสูง กระจกข้างบานใหญ่ ทัังหมดให้ความโปร่งโล่งสบาย
ตลอดจนเบาะนั่งตอนหลังยังออกแบบให้มีการปรับเอนเล็กน้อย เพิ่มความลงตัวในการโดยสารอีกด้วย จึงไม่แปลกที่พวกมันนั่งสบาย ราวกับอยู่ในห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ได้
2.ศูนย์ถ่วงต่ำ
รถอเนกประสงค์เกือบทุกรุ่นมีปัญหาสำคัญเวลาเข้าโค้ง เนื่องจากการวิศวกรรมให้รถมีช่วงล่างสูงขึ้นจากพื้นพร้อมเมื่อต้องลุย ทำให้เวลาขับด้วยความเร็วแล้วต้องการเปลี่ยนเลน หรือ เข้าโค้ง จะพบว่า รถมีการโคลงตัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถที่สร้างจากพื้นฐานกระบะ
ซูบารุ เป็นรถอเนประสงค์บริษัทเดียวที่ใช้เครื่องยนต์ Boxer ให้การตอบโจทย์การวิศวกรรมแตกต่างด้วยศูนย์ถ่วงวางต่ำกว่าเครื่องยนต์ปกติ ทำให้เวลาขับขี่นั้นจะมีความมั่นใจมากกว่ารุ่นอื่นพอสมควร
อย่างไรก็ดี เครื่องสูบนอนก็เป็นหอกข้างแคร่ในบางโอกาส เวลาลุยสมบุกสมบัน อาทิต้องขับผ่านน้ำที่มีความสูง ซึ่งระดับน้ำสูงเกิน 600 มม. ก็เพียงพอ ทำให้เครื่องดำน้ำ ในระหว่างที่คุณขับผ่านน้ำท่วม
3.ใต้ท้องพื้นสูง
ด้วยสาเหตุเครื่องยนต์วางต่ำ และมีจุดศูนย์ถ่วงติดพื้นมากกว่าคนอื่น ซูบารุ จึงนำเสนอความสูงจากพื้นถึงจุดต่ำสุดใต้ท้องรถสูงที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน อเนกประสงค์ของซูบารุทุกรุ่น ไม่ว่าจะ Subaru XV , Subaru Forester กระทั่งชายใหญ่ Subaru outback ทั้งหมด ต่างมาพร้อม ความสูง 8.7 นิ้ว หรือ 220 มม. ช่วยให้รถคุณลุยได้อย่างสมบุกสมบัน ไม่หวาดหวั่นอะไร
หลายครั้งเราจึงพบว่าสาวกซูบี้บางคนบุกป่าฝ่าดงแล้วกลับมารอดตายสบายมาก ทั้งที่ดูแล้ว พวกมันไม่น่าไปได้
4.ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และ X Mode
ถึงซูบารุ จะไมไ่ด้ ตั้งใจทำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มาเพื่อลุยก็จริง แต่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของซูบาุร ด้วยการส่งกำลังอย่างมีสมดุล พวกมันจึงขึ้นชื่อบ้างในทางออฟโรด กอปกับ การเป็นรถที่มีน้ำหนักตัวไม่มาก เหมาะสมกับการลุย บางครั้งพวกมันฝากลวดลายให้กระบะโหดอายม้วน กันไปเลย
ระบบขับเคลื่อน Symetric All Wheel Drive ของซุบารุ ปกติ จะทำงานในอัตราแปรผัน 60/40 ระหว่างหน้าและหลัง ปัจจุบันทางซูบาระเห็นความชื่นชอบนำรถพวกเขาไปลุย จึงติดตั้งระบบ X- Mode เข้ามาให้ใช้กัน
ระบบนี้ทำงาน โดยปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เปลี่ยนเป็นกระจายหน้า-หลัง 50/50 ปรับจูนชุดเกียร์ให้รีดแรงบิดมากที่สุด และ คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้นเป็นพิเศษ ช่วยฝ่าอุปสรรคได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยการเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Full time จึงมีปัญหาน้อยลง เมื่อเกิดอาการลุยแล้วต้องล้อยกระหว่างทาง ยิ่ง X- Mode ใหม่ มีระบบ terrain Manage ment System มาด้วย ยิ่งทำให้รถตอบโจทย์ยิ่งขึ้น
5.นั่งสบายกว่า
ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ Boxer และ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อเนกประสงค์จากซูบาุร นั่งสบายกว่าด้วย 2-3 เหตุผล
- ข้อแรก แรงสั่นสะเทือนน้อยกว่า เนื่องจาก เครื่องบ๊อกเซอร์ เป็นเครื่องที่หักล้างแรงสั่นสะเทือนในตัวมันเอง เวลาจอดหยุดนิ่ง เทียบกันระหว่างเครื่องยนต์แถวเรียงทั่วไปกับบ๊อกเซอร์ จะพบว่ า Boxer นั้น สั่นสะเทือนกว่ามากพอสมควร
- 2.การโคลงตัวรถน้อยกว่า ก็มาจากศูนย์ถ่วงต่ำ และการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเองด้วย
- 3.ด้วยการออกแบบท่านั่ง และ คุณสมบัติห้องโดยสารสูงโปร่งที่กล่าว ไป ในข้าง ต้นทำให้ มันตอบโจทย์ได้ดีกว่า
6.ทนทาน
ที่จริงรถซูบารุ เป็นรถที่ได้ชื่อว่ามีความทนทานมากที่สุดในโลกยี่ห้อหนึ่ง ในอเมริกา มีการสำรวจพบว่า Subaru ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ยังนิยมใช้บนถนนในอเมริกาจำนวนมาก และประสิทธิภาพการขับขี่ไม่ต่างจากวันแรกเท่าไรนัก
ด้วยเหตุนี้ สำหรับใครมองหารถที่ทนทาน ซูบารุเรียกว่าไม่เป็นสองรองใครในตลาด ถ้าคุณดูแลรักษารถอย่างถูกต้อง
จากทั้งหมด คงจะเห็นว่า อเนกประสงค์ ซูบารุมีดีในตัวมันอย่างมาก จนคุณอาจจะคาดไม่ถึงว่ารถคันนี้งค์คันนี้อาจตอบโจทย์ให้กับคุณไม่น้อย ใครจะคบมันลองตัดสินใจดูบางทีอาจหลงรัก พวกมันไปเลยก็ได้
สนับสนุนเนื้อหา โดย Subie Thailand
อ่านรีวิว Subaru Forester 2.0 i-S ได้ที่นี่นะครับ