หลังประสบความสำเร็จกับ Aprilia SR GT 200 ทางค่ายก็มั่นใจในการรุกตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดก็ถึงเวลาของ Aprilia Tuareg 660 สุดยอดตัวลุยคลาสกลางเลือดอิตาลี ที่ถูกนำมาเปิดตัว และเคาะราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยตัวเลข 749,000 บาท

The Style: ฟังก์ชันที่หล่อหลอมดีไซน์อย่างสมบูรณ์แบบ

Aprilia TUAREG 660 มาพร้อมกับงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์โดยเกิดจากการทำงานอย่างหนักของนักออกแบบจาก Piaggio Advanced Design Center (PADC) นำโดย Miguel Galluzzi ที่ตั้งใจออกแบบพาหนะคันใหม่ ให้มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ผสานเข้ากับโครงสร้างทางวิศวกรรมชั้นยอด เพื่อรูปลักษณ์อันโดดเด่น เปี่ยมด้วยรายละเอียดสุดพิถีพิถัน สมดุลระหว่างรูปทรง ขนาด น้ำหนัก และความหลากหลายในสมรรถนะ

บังลมหน้าทำจากวัสดุเพล็กซี่โปร่งใสยื่นออกมาเหนือไฟหน้าเผยให้เห็นโครงสร้างของแผง ยึดเรือนไมล์ด้านหลังที่ทำจากวัสดุเทคโนพอลิเมอร์ชนิดพิเศษผสมไฟเบอร์กลาสที่ไม่เพียงแข็งแรง ทนทาน  แต่ยังให้ลุคที่ดิบเท่เมื่อมองจากด้านหน้า

ระบบไฟเป็นแบบ Full LED มีชุดไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบ ใหม่ มาพร้อมกับไฟเดย์ไลท์ DRL ให้ความสว่างรอบทิศทาง ส่วนแฟริ่งแบบสองชั้นที่ทำหน้าที่ เสริมการทำงานของ แอโรไดนามิก ซึ่งนี่ยังเป็นมอเตอร์ไซค์ออฟโรดคันแรก ของโลกที่มีแฟริ่งแบบสองชั้นอีกด้วย สิ่งนี้ยังสะท้อนถึง การทำงานอย่างจริงจังของ Aprilia ในการค้นคว้าวิจัย ด้านแอโรไดนามิก เพื่อรังสรรค์สุดยอดแห่งสมรรถนะ พร้อมกับการมอบความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างถึงที่สุด

Ergonomics and Ride: สรีรศาสตร์และการขับขี่ DNA แบบ Aprilia

อีกหนึ่งที่สุดของความท้าทายในการออกแบบที่ซับซ้อนของมอเตอร์ไซค์ลูกผสมระหว่างเอ็นดูโร่กับแอดเวนเจอร์ไบค์คันนี้ วิศวกรออกแบบเครื่องยนต์แบบสองสูบเรียง โดยยังคงรักษาระยะความสูง ของเบาะให้มีองศาในการนั่งคร่อมเบาะที่ต่ำลงมา ทำให้ระยะห่างระหว่างเท้าของผู้ขับขี่กับพื้นลดลง เสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ไม่ว่าจะมีส่วนสูงเท่าใด พร้อมระดับเบาะนั่งและซับเฟรมที่ถูกลดระดับลงมา ให้มากที่สุด (ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด)

ขณะที่แฮนด์บาร์อะลูมิเนียมที่มีความกว้าง และสูงไม่เพียงช่วยเสริมประสิทธิภาพของ การควบคุมมอเตอร์ไซค์ แต่ยังให้ผู้ขับขี่สนุกกับ การบังคับรถ และรู้สึกได้ถึงโครงสร้างของแชสซี อันเป็นเอกลักษณ์ของ Aprilia

ด้วยถังน้ำมันความจุ 18 ลิตรของรถ ก็สามารถทำระยะทาง ได้ไกลถึง 450 กิโลเมตร รูปทรงถังก็ออกแบบมาให้กระชับรับกับตำแหน่ง การวางขาของผู้ขับขี่ โดยมีโครงตัวถังป้องกันตลอดแนว และด้วยรูปทรง ถังน้ำมันในแนวดิ่ง ซึ่งทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่กลางจุดศูนย์ถ่วง นั่นทำให้การดูดน้ำมันเชื้อเพลิงมีความสมดุลและเสถียร และใช้ น้ำมันเชื้อเพลิงได้จนหมดถังอย่างแท้จริง และมีน้ำหนักเพียง 204 กิโลกรัม (เมื่อรวมของเหลว) ทำให้มอเตอร์ไซค์ขนาดกลางคันนี้ จึงตอบโจทย์กับการเดินทางอย่างถึงที่สุด

Chassis Architecture: โครงสร้างแชสซี อีกหนึ่งมาตรฐานใหม่จาก Aprilia

เป็นที่ทราบกัน Aprilia คือผู้รังสรรค์โครงสร้างแชสซีของรถมอเตอร์ไซค์สายสปอร์ตที่ดีที่สุดของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างฟีลลิ่งของล้อหน้าอันโดดเด่นและแตกต่าง การันตีโดยทีมแข่งรถ Aprilia Racing ที่กวาดรางวัลในเวทีระดับโลกมาแล้วกว่า 54 รายการ

เฟรมรถใหม่เป็นโครงตัวถังแบบท่อเหล็กพร้อมซับเฟรมในตัว เพลทยึดเครื่องยนต์ แบบอะลูมิเนียมเสริมความแข็งแกร่ง และสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 210 กิโลกรัม นั่นทำให้ การบรรทุกผู้โดยสารและกล่องสัมภาระในการเดินทางระยะไกลไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

โครงสร้างตัวถังยังมีจุดยึดกับเครื่องยนต์ถึง 6 จุดตำแหน่งของเครื่องยนต์จะถูกวางให้เอียง ไปด้านหลัง ราว 10° จากตำแหน่งปกติของแชสซีมอเตอร์ไซค์แบบทางเรียบ ทำให้กระบอกสูบ อยู่ในแนวตั้งตรงมากขึ้น ช่วยลดอาการส่ายของรถและเพิ่มความคล่องตัวในการเลี้ยวที่แคบ

สวิงอาร์มคู่ที่ทำจากอะลูมิเนียมและมีขนาดที่ยาวขึ้นเพื่อช่วยในการทรงตัวอย่างสูงสุด ได้รับการติดตั้งให้ติดอยู่กับโครงตัวถังและเครื่องยนต์ เพื่อทำหน้าที่รองรับน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น และมันทำงานอย่างสมบูรณ์แบบเข้ากับระบบรองรับน้ำหนักด้วยโช้กจากคายาบ้า ที่มีระยะยุบตัวที่ 240 มม. รองรับการปรับตั้งความแข็งของสปริง ค่าการคืนตัว การยืด-ยุบ และการรองรับน้ำหนัก และนี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ TUAREG 660 พร้อมลุยไปในทุกข้อจำกัด

ขนาดของขอบล้ออะลูมิเนียมพร้อมยางแบบ tubeless ยังเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเป็นรถออฟโรด อย่างเจนจัด ล้อหน้ามีขนาด 2.5 x 21” ล้อหลังมีขนาด 4.5 x 18” มาพร้อมยาง Pirelli Scorpion Rally STR ยางหน้า 90/90 และ ยางหลัง 150/70 ตามลำดับ ระบบเบรกหน้า-หลัง Brembo ล้อหน้ามากับดิสก์เบรกขนาด 300 มม. 2 สูบ ส่วนล้อหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 260 มม. แบบลอยตัว 1 สูบ

สมรรถนะและความปลอดภัยขั้นสุดกับระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ APRC

Aprilia TUAREG 660 มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ที่สามารถปรับแมปควบคุมเครื่องยนต์ได้หลายแบบ ใช้คันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire จึงทำให้ควบคุม การเร่งเครื่องยนต์ได้อย่างละเอียดตั้งแต่รอบต่ำ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ APRC (Aprilia Performance Ride Control) ที่ช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่และเสริมความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น การบุกตะลุยไปในทางวิบากหรือโลดแล่นบนถนนพื้นราบอย่างเพลิดเพลิน

ทั้งนี้ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ APRC ที่ได้รับการพัฒนาสำหรับใช้ใน TUAREG 660 โดยเฉพาะ ประกอบด้วยระบบดังต่อไปนี้ ATC: Aprilia Traction Control (ระบบป้องกันการลื่นไถล), ACC: Aprilia Cruise Control (ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ), AEB: Aprilia Engine Brake (ระบบควบคุมกำลังเบรกจากเครื่องยนต์) และ AEM: Aprilia Engine Map (ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์)  นอกจากนี้ ยังมีระบบที่เป็นอุปกรณ์เสริม ได้แก่ AQS: Aprilia Quick Shift หรือระบบเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้คลัทช์

และเพื่อประสบการณ์การขับขี่อย่างถึงที่สุด TUAREG 660 ยังมีโหมดการขับขี่ (Riding Modes) ที่เปิดให้ผู้ขับขี่ได้เลือก ปรับถึง 4 โหมด ตอบสนองทุกรูปแบบการเดินทาง และสภาพถนน  โดยทั้งหมด 4 โหมด แบ่งเป็น

  • Urban หรือโหมดขับขี่ในเมือง เหมาะสำหรับการใช้ รถในชีวิตประจำวัน ระบบจะปรับค่า โดยคำนึงถึง ความปลอดภัยเป็นหลัก เบรก ABS จะทำงานทั้งสองล้อ
  • Explore หรือโหมดสำหรับการเดินทาง ระบบจะปรับค่า เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทำความเร็ว เพื่อรื่นรมย์กับเส้นทาง เบรก ABS จะทำงานทั้งสองล้อ   
  • Offroad หรือโหมดออฟโรด ตอบโจทย์สำหรับการขับขี่ บนทางวิบาก ระบบควบคุมการลื่นไถล และระบบควบคุม กำลังเบรกจากเครื่องยนต์ จะถูกปรับลดระดับให้ต่ำที่สุด ขณะที่อยู่ในโหมดนี้ระบบจะเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันเบรก ABS จะปิดการทำงานที่ล้อหลัง และผู้ขับขี่ ก็สามารถปิดการทำงานของ ABS ที่ล้อหน้าได้ด้วยเช่นกัน
  • Individual หรือโหมดปรับตั้งค่าเอง เปิดให้ผู้ขับขี่ สามารถตั้งค่าตามสไตล์การขับขี่ของตัวเองได้อย่างตรงใจ

จอแสดงผลดิจิทัล TFT ขนาด 5 นิ้ว ไม่เพียงแสดงผลการทำงานของรถอย่างแจ่มชัด และครอบคลุมทุกข้อมูล แต่ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ปรับแสงสว่างของหน้าจอได้อัตโนมัติ ในเวลากลางคืน หรือในเวลากลางวัน โดยอุปกรณ์เสริมของรถคันนี้ยังรวมถึง Aprilia MIA ระบบมัลติมีเดียแพลตฟอร์มสำหรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถ

เครื่องยนต์สองสูบเรียง 80 แรงม้า หัวใจแห่งการขับเคลื่อนทรงพลัง

 เครื่องยนต์ 660 สองสูบเรียงที่ล้ำสมัยที่สุดจาก Aprilia ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองรูปแบบการขับขี่ ที่หลากหลาย ภายใต้เป้าหมายในการทำให้ TUAREG 660 เป็นมอเตอร์ไซค์สารพัดประโยชน์ที่เปี่ยมสมรรถนะ ในรูปลักษณ์ที่คล่องแคล่วปราดเปรียว และนี่คือ หนึ่งในเหตุผลที่ Aprilia เลือกใช้เครื่องยนต์สองสูบเรียง เจนเนอเรชั่นล่าสุด โดยมีรูปทรงกะทัดรัด ซึ่งได้แนวคิดมาจากเครื่องยนต์ RSV4 ขนาด 1,100 CC อีกทั้งยังผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสียยูโร 5 และด้วยเลย์เอาท์ของเครื่องยนต์เช่นนี้ ส่งผลโดยตรงต่อมิติภายนอกของรถที่ดูกระชับคล่องตัว

กระบอกสูบของเครื่องยนต์นี้มีความกว้าง 81 มม. และมีช่วงชักที่ 63.99 มม. แบบเดียวกับ เครื่องยนต์ RSV4 ความจุ 1,099 ซีซี ทั้งนี้ การเลือกใช้เทคโนโลยีจากเครื่องยนต์ V4 ทำให้มั่นใจได้ว่า รถมีสมรรถนะที่โดดเด่น โดยพิจารณาถึงความเร็วรอบที่สูงและปริมาตรกระบอกสูบ ของเครื่องยนต์อย่างเฉพาะ ขณะที่ส่วนประกอบอื่นอย่างบล็อกเสื้อสูบ ได้รับการออกแบบใหม่ สำหรับซีรีส์ 660 นี้โดยเฉพาะ

ตำแหน่งไทม์มิ่งพินข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ที่ 270° (องศา) ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในแนวนอน โดยมีกระบอกสูบติดตั้งอยู่ภายในบริเวณส่วนบนของห้องกึ่งข้อเหวี่ยง เพื่อลดสัดส่วนที่ไม่จำเป็น และทำให้โครงสร้างมีความทนทานยิ่งขึ้น กระบอกสูบยังมีระยะออฟเซ็ตกับเพลาข้อเหวี่ยง เพื่อช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างที่ลูกสูบทำงาน

เพลาลูกเบี้ยวคู่เหนือฝาสูบที่มี 4 วาล์วต่อหนึ่งสูบ ขับเคลื่อนด้วยโซ่ ได้ปรับการยกระดับองศา ให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มแรงบิดในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในรอบต่ำ นี่ยังเป็นวัตถุประสงค์ของระบบท่ออากาศ เข้าแบบใหม่ ที่มีระยะท่อที่ยาวกว่าและหม้อกรองอากาศแบบใหม่ ซึ่งถูกวางไว้ระหว่างคอรถ และถังน้ำมัน ซึ่งช่วยให้เปลี่ยนกรองอากาศได้อย่างสะดวก และเลย์เอาท์ของระบบท่อไอเสียใหม่ ยังช่วยเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ในขณะที่ทำงานรอบต่ำและปานกลาง

เครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ยังมาพร้อมอ่างน้ำมันเครื่องแบบใหม่ที่มีความจุเท่าเดิม แต่มีความสูงกว่า เพื่อช่วยยกระยะใต้รถให้สูงจากพื้นที่ 240 มม. อ่างน้ำมันเครื่องยังมีแผ่นกั้นด้านในใหม่ ที่ช่วยทำให้ปริมาณน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับที่พร้อมทำงานในทุกเงื่อนไขการขับขี่

เครื่องยนต์ของ TUAREG 660 ใช้คลัตช์เปียกแบบซ้อนกันหลายแผ่นพร้อมระบบป้องกัน การสั่นสะเทือนใน ทำให้การบังคับควบคุมรถเป็นไปอย่างเรียบเนียนไม่มีสะดุด และด้วยองค์ประกอบ ทั้งหมดทำให้เครื่องยนต์ของ TUAREG ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าขนาดความจุของเครื่องยนต์ โดยมีกำลัง 80 แรงม้า ที่ 9,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 70 นิวตันเมตร

Aprilia Tuareg 660 – Technical data sheet

Powertrain

  • เครื่องยนต์ : 2 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ เพลาลูกเบี้ยวคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 4 วาล์วต่อสูบ ขับด้วยโซ่ลดระดับเสียงที่ฝั่งขวา
  • ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก : 81 x 63.93 มม.
  • ความจุกระบอกสูบ : 659 ซีซี
  • อัตราส่วนกำลังอัด : 13.5:1
  • กำลังสูงสุด : 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) ที่ 9,250 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด : 70 นิวตันเมตร (7.13 กิโลกรัม-เมตร) ที่ 6,500 รอบ/นาที
  • ระบบฉีดน้ำมัน : หม้อกรองอากาศด้านหน้าตัวรถ ลิ้นปีกผีเสื้อเส้นผ่านศูนย์กลาง 48 มม. 2 ตัว ระบบการจัดการเชื่อมต่อกับคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire
  • ระบบจุดระเบิด : ไฟฟ้า
  • ระบบหล่อลื่น : อ่างน้ำมันแบบเปียก
  • ระบบส่งกำลัง : เกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ควิกชิพเดอร์ up – down อุปกรณ์เสริม)
  • ระบบคลัตช์ : คลัตช์เปียกแบบหลายแผ่น มาพร้อมระบบสลิปเปอร์คลัตช์
  • ระบบขับเคลื่อน : โซ่ อัตราทด 15/42
  • ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ : ระบบ APRC ประกอบด้วย ระบบควบคุมการลื่นไถล (ATC) ระบบควบคุมกำลังเบรกจากเครื่องยนต์ (AEB) ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ (AEM) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และมีโหมดการขับขี่ 4 ได้แก่ Urban, Explore, Offroad, Individual
  • มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม : ยูโร 5
  • อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง : 4 ลิตร ต่อ 100 กม. (25 กม./ลิตร)
  • ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ : 99 กรัม / กม.

Chassis

  • โครงรถ : โครงตัวถังแบบท่อเหล็กพร้อมซับเฟรมในตัว เพลทยึดเครื่องยนต์แบบอะลูมิเนียม
  • ระบบกันสะเทือนด้านหน้า : โช้กอัปคายาบ้าหัวกลับขนาด 43 มม. รองรับการปรับความแข็งของสปริง การปรับตั้งค่าการคืนตัว การยืด-ยุบ และการรองรับน้ำหนัก โดยมีระยะยุบตัว 240 มม.
  • ระบบกันสะเทือนด้านหลัง : สวิงอาร์มอะลูมิเนียม โช้กอัปคายาบ้าแบบปรับได้ : ค่าคืนตัว การยืด-ยุบ และการรองรับน้ำหนัก โดยมีระยะยุบตัว 106.5 มม.
  • เบรกหน้า : ดิสก์เบรกคู่ขนาด 300 มม. คาลิปเปอร์เบรกของเบรมโบแบบลอยตัว 4 สูบ วางตรงข้ามกัน  ขนาด30/32 มม. และสายเบรกโลหะถัก
  • เบรกหลัง : ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 260 มม. คาลิปเปอร์เบรกของเบรมโบ สูบเดี่ยว ขนาด 34 มม. และสายเบรกโลหะถัก
  • ระบบเบรก ABS : ระบบ ABS multimap
  • ล้อ : ล้อแบบซี่ลวด ด้านหน้าขนาด 2.15 x 21 นิ้ว – ด้านหลังขนาด 4.25 x 18 นิ้ว
  • ยาง : ยางแบบไร้ยางใน ล้อหน้าขนาด 90/90 ขอบ 21 นิ้ว ล้อหลังขนาด 150/70 ขอบ 18 นิ้ว

Dimensions

  • ระยะฐานล้อ : 1,525 มม.
  • ความยาว : 2,220 มม.
  • ความกว้าง : 965 มม.
  • ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 860 มม.
  • องศาแผงคอ : 26.7 องศา
  • ระยะเทรล : 113.3 มม.
  • น้ำหนัก : 204 กก. รวมของเหลว (187 กก. ไม่รวมของเหลว)
  • ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 18 ลิตร (รวมปริมาณสำรอง 3 ลิตร)
  • ทางเลือกเฉดสีตัวรถ : Indaco Tagelmust, Martian Red, Acid Gold
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่