AION เปิดทางเลือกสำหรับครอบครัวที่รักความคุ้มค่าด้วยการเพิ่มรุ่น AION Y PLUS 410 Premium เปิดตัวที่งาน Bangkok Motor Show 2024

ด้วยหน้าตาไม่ต่างจากรุ่น 490 Premium จุดต่างจากรุ่นอื่นๆด้วยการเพิ่มที่ปัดน้ำฝนด้านหลังนอกนั้นเหมือนกันทั้งระบบไฟสูงอัจฉริยะ พร้อมประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอย 18 นิ้ว กระจังหน้าทรงไดนามิก ชุดไฟหน้า LED ดีไซน์มีปีก Angel Wing พร้อมช่องระบายรูปสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟและราวหลังคาจากสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP

ภายในมีระบบระบายอากาศเบาะที่นั่งคนขับ เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับได้ ด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับคนขับ 6 ทิศทางและคนนั่ง 4 ทิศทาง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร 32 สี รองรับการเปลี่ยนแปลงตามจังหวะดนตรี เบาะหลังมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะและที่วางแขนตรงกลาง ระบบสั่งการด้วยเสียงสามารถรองรับได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย

ระบบนำทางและฟังก์ชันฟังเพลงแบบออนไลน์ รวมถึงระบบควบคุมรถระยะไกลผ่าน Application เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้รถ บนจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการอัปเดต OTA แบบ ADiGO SPACE คอยช่วยแสดงข้อมูลสำหรับทุกการขับขี่ พร้อมระบบนำทาง และฟังก์ชันที่อัจฉริยะ เพื่อประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ง่ายดาย พร้อมลำโพง 6 จุด และจอคู่ควบคุมจอมาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว

โดดเด่นทันสมัยด้วยธีมการออกแบบภายใน 5 แบบ เบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งเบาะโดยสารด้านหน้าสามารถพับราบได้เต็มที่เปลี่ยนเป็นเตียงคู่ขนาด 1.8 เมตร รวมถึงการพับเบาะหลังแบบ 60/40 ได้อย่างง่ายดายผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถสบายไปกับพื้นที่วางขาขนาดกว้างพิเศษเทียบกับคลาสเดียวกันซึ่งกว้างถึง 1,022 มิลลิเมตร ประตูหลังที่มีมุมเปิดกว้างเกือบ 90 องศา ทำให้การเข้าออกรถสะดวกยิ่งขึ้นเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ทั้งการขับขี่และกับผู้ใช้

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Lithium Ion Phosphate ความจุแบตเตอรี่ 50.66 kWh ให้กำลังวิ่งไกลสุด 410 กิโลเมตรต่อชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC พร้อมโหมดการขับขี่สี่โหมดทั้งแบบแป้นเดียว i-pedal

ช่วยเพิ่มระยะการขับขี่สูงสุดถึง 23% และยังมีโหมด​ Sport, Normal, ECO ด้านการชาร์จแบบกระแสตรง​ DC​ รองรับการชาร์จ​ 80​ kW​ 10-80% ภายใน​ 45​ นาที​ และชาร์จ​กระแสสลับ​ AC​ รองรับ​ 7kw  0-100% ภายใน​ 8-9​ ชั่วโมง และฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดาย มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+

มีสีภายนอกเลือกได้ 7 สี ดังนี้ สีทองลักกี้โกลด์ Lucky Gold, สีเขียวไวท์ทาลิตี้ Vitality Green, สีบรอนซ์เงินสปีดดี้ ซิลเวอร์ Speedy Silver, สีเทาลิเบอร์ตี้ แอช Liberty Ash, สีเทาอิลิแกนท์ เกรย์ Elegant Grey, สีขาวเพียวไวท์ Pure White และ สีดำแกรเมอร์ แบล็ก Glamour Black และสีทูโทนหลังคาดำอีก 3 สี ได้แก่ สีทองลักกี้โกลด์ Lucky Gold, สีเขียวไวท์ทาลิตี้ Vitality Green และ สีขาวเพียวไวท์ Pure White ในราคา 859,900 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่