Home » Ford ปรับแผน ลดความสำคัญการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในอเมริกาฯ และ ทั่วโลก
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Ford ปรับแผน ลดความสำคัญการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในอเมริกาฯ และ ทั่วโลก

จากช่วงเวลาที่รถยนต์ไฟฟ้าทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ สู่สถานการณ์ปัจจุบันที่มีอัตราการเติบโตต่ำจนทำให้หลายผู้ผลิตต้องคิดแผนใหม่จากที่เคยตั้งมั่นไว้ดิบดี และล่าสุดที่ประกาศข้อมูลออกมาเมื่อไม่นานนี้ ก็คือทาง Ford

Ford คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขามีความพยายามจะโปรโมทการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจนไม่แพ้ค่ายยุโรป

แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างที่หลายคนคิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานที่เติบโตไม่พอ, ข้อจำกัดในการใช้งานที่ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับได้, และยังมีเรื่องของการออกมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่น้อยลง

ส่งผลให้ตอนนี้ผู้ผลิตหลายค่ายต้องปรับแผนงานเกี่ยวกับการทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันใหม่ยกใหญ่ แม้กระทั่ง Ford เอง ก็ยังมีการประกาศความเคลื่อนไหวใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันว่า “แผนการทำรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ คือรูปแบบธุรกิจหนึ่งที่ถูกลดความสำคัญลง เนื่องจากความต้องการในตลาดน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้, ต้นทุนการพัฒนาสูง, และข้อกำหนดทางกฏหมายที่เปลี่ยนแปลงไป”

ซึ่งหนึ่งในกรณีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ก็คือการที่ทางค่ายเลือกยกเลิกแผนการทำรถ F-150 Lightning เจเนอเรชันที่ 2 ให้เป็นร่างขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วนต่อไปออกมาขาย และจะเปลี่ยนใหม่ให้มันกลายเป็นรถกระบะไฮบริดแบบ REEV แทน

นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังเปิดเผยอีกว่า พวกเขาได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกแผนการพัฒนารถตู้ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานเชิงพานิชย์เพื่อตลาดในทวีปยุโรป หรือแม้แต่รถแบบเดียวกันสำหรับตลาดในสหรัฐอเมริกา ก็ถูกยกเลิกไปเช่นกัน แล้วจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนารถที่ใช้ขุมกำลังสันดาปภายใน หรือ ไฮบริด ที่มีราคาย่อมเยากว่ามาตอบโจทย์ลูกค้าแทน โดยคาดว่ารถโมเดลใหม่นี้ จะพร้อมผลิตเพื่อขายจริงในปี 2029 ที่โรงงานในรัฐโอไฮโอ

และในขณะเดียวกัน ทางแบรนด์ยังปรับแผนงานใหม่โดยจะเน้นไปมุ่มพัฒนาขุมกำลังที่หลากหลายมากขึ้น (ฟังดูคุ้นๆใช่หรือไม่ ?) โดยจะเน้นไปที่การทำรถไฮบริด กับรถ REEV เพิ่มเติม ซึ่งเมื่อรวมกับรถ BEV ที่อาจจะยังมีการทำอยู่บ้างในฝั่งรถที่มีโมเดลน่าสนใจ ทางบริษัทก็เชื่อว่ามันจะมีส่วนแบ่งจากยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของแบรนด์ได้มากขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2030 จากที่ในปัจจุบันมีตัวเลขอยู่ราวๆ 33% ด้วยกัน

โดยเพื่อให้แผนงานใหม่นี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ทาง Ford จึงตั้งเป้าที่จะทำรถขุมกำลังไฮบริด ให้มีสมรรถนะในการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในฝั่งที่สร้างมาเพื่อเน้นความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และฝั่งที่เน้นใส่เข้ามาเพื่อเค้นสมรรถนะร่วมกับเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเราคงได้เห็นกันในรถตระกูล Raptor ไม่ก็ Ford Racing แน่นอน

ทั้งนี้ แม้ทางค่ายจะให้ความสำคัญในการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนยานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ลง แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะทิ้งงานในส่วนนี้ไปทั้งหมด เพราะโปรเจ็กท์การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาจับตองง่ายบางรุ่นก็ยังคงมีอยู่

และทางค่ายเอง ก็ยังมีแผนจะสร้างรูปแบบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่เพื่อการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าขึ้นมาด้วย โดยจะมีทั้งการขาย และการบริการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าฝ่ายอุตสาหกรรมดิจิตอล ที่ตอนนี้มักสร้างศูนย์รวบรวมข้อมูล หรือ Data Center ขึ้นมากมายหลายแห่งในสหรัฐอมเริกา

ซึ่งดูเหมือนว่าทางแบรนด์จะมีศักยภาพในการทำธรุกิจนี้ได้ดี เนื่องจากพวกเขามีโรงงานที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เช่นแผนการพัฒนาโรงงานในรัฐเคนตักกี สามารถผลิตแบตเตอรีสำหรับระบบจัดเก็บพลังงานไฟ้าได้มากกว่า 5 เมกะวัตต์ กันเลยทีเดียว

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.