กาลครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2023 ทาง Mitsubishi ได้เคยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ประกาศตนว่าจะทำรถกระบะไฟฟ้าออกมาขายในปี 2028 แต่สุดท้ายดูเหมือนว่าแผนข้างต้นจะถูกปรับเลื่อนออกไป เพราะมีเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจกว่าเข้ามาแทน

เทรนด์ที่ว่านั้น ก็คือการทำรถยนต์ขุมกำลังไฮบริด ที่ผู้ใช้รถหลายคน เริ่มหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะในบางครั้ง การใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก็อาจจะยังเป็นวิถีการใช้รถที่ผลิกผันเกินไปจึงทำให้มันไม่ได้มอบความสะดวกสบายในการใช้งานได้ดีอย่างที่คิด
ดังนั้น ทาง Mitsubishi จึงเลือกที่จะเปลี่ยนแผน ด้วยการชลอแผนการพัฒนารถกระบะไฟฟ้าของตนเองออกไปก่อน แล้วหันมามุ่งพัฒนาขุมกำลังไฮบริดให้กับ Triton อย่างจริงจังมากขึ้นแทน
“แรกสุด, เราต้องทำรถขุมกำลังไฮบริด ไม่ใช่การทำปลั๊กอินไฮบริด” Kaoru Sawase วิศวกรระดับสุงของ Mitsubishi กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่งาน Tokyo Motor Show 2025 “ในอดีต เราประกาศไว้ว่ามีแผนที่จะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า, รถ Triton ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่, แต่ตอนนี้แผนได้มีการเปลี่ยนทิศทางไปเล็กน้อย, เรากำลังพยายามที่จะเปิดตัวรถขุมกำลังไฟฟ้าอย่างระบบไฮบริดแทน”

ซึ่งนาย Sawase ยังอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องเลื่อนแผนการทำกระบะไฟฟ้า 100% ออกไป ว่าไม่ได้เป็นเพราะกระแสความต้องการของลูกค้าในตลาดที่ลดลง แต่ยังรวมถึงการที่มันอาจมีข้อจำกัดในด้านการใช้งานเมื่อต้องถูกนำไปบุกตะลุยโหดๆ หรือการต้องแบกของหนักๆไว้ด้านท้ายกระบะด้อยกว่ากระบะขุมกำลังสันดาปภายในแบบดั้งเดิม
โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องของปัญหาความร้อนสะสมที่ส่งผลถึงสมรรถนะในการใช้งานอย่างยิ่งยวด ไม่ว่าจะทั้งตัวมอเตอร์ไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ก็ตาม ดังนั้นการทำรถไฮบริดที่ไม่ต้องพึ่งพามอเตอร์และแบตเตอรี่เป็นหลัก จึงทำให้มันสามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ารถกระบะได้ดีกว่าในมุมมอง ณ เวลาปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้
“พวกมัน(กระบะ PHEV ที่ใช้มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก) สามารถไต่เนินได้ดี, แต่ก็ไม่ได้ทำได้ตลอดขนาดนั้น, พอถึงจุดหนึ่งของการปีนป่าย, สักพักจู่ๆมันก็หยุดปีนไปดื้อๆ, ระบบป้องกันความเสียหายก็ทำงานทันที, สำหรับผมแล้วการพัฒนารถออฟโร้ดพลังไฟฟ้าจึงยังเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก” สำหรับปัจจุบัน ซึ่งมันอาจใช้เวลานานเกินไปกับกระแสความต้องการของลูกค้าและข้อจำกัดด้านมลพิษที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน

ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่า ขุมกำลังไฮบริดลูกใหม่นี้ จะเป็นขุมกำลังไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซล เป็นหัวใจหลัก ทาง Mitsubishi ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แม้แต่กำหนดการวางขายเองก็ยังไม่ชัดเจนเช่นกัน เพราะโปรเจ็กท์ยังอยู่ในขั้นแรกๆของการพัฒนากันอยู่
ดังนั้นกรอบในการพัฒนาโปรเจ็กท์จึงยังค่อนข้างกว้าง แม้กระทั่งกำหนดการวางขายจริงก็ยังไม่ตายตัว แต่ทาง Mitsubishi ระบุว่าจะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ได้แน่นอน เพื่อให้สอดรับและทันกับความต้องการของลูกค้า
