หลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่หลังสถานการณ์โควิด 19 มา ค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ต้องต่อสู้กับค่ายจีนอย่างหนักโดยเฉพาะตลาดในประเทศไทย
แม้ในระยะหลัง กระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า สินค้าสำคัญของค่ายจีน ลูกค้าจะลดความอยากได้ไปพอสมควร และค่ายญี่ปุ่นพลิกกลับมาคว้าตลาดไฮบริดที่หลายคนรู้สึกสบายใจกว่า ในการใช้รถยนต์สมัยใหม่ ด้วยการปิดเกมมีประกันความมั่นใจในชิ้นส่วนสำคัญใช้ได้ยาวๆ
ปีนี้ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ดูจะกลับมามีชีวิตชีวิต แนะนำรถที่ทำให้คุณมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าได้ เมื่อเห็นพวกมัน
ทำรถที่คนอยากได้
นี่คือ เรื่องแรกที่ผมคิดในระหว่างประมวลผลขณะบินกลับจากประเทศญี่ปุ่น งาน Japan Mobility Show ปีนี้ เป็นครั้งแรกที่ผมมาเดินงาน แล้วรู้สึกว่า
เฮ้ย!! มันมีรถที่เราอยากได้ อยากอ้อนภรรยาขอไปจอดที่บ้าน มากกว่าปีไหนๆ
ผมเริ่มมางาน Japan Mobility Show เดิมชื่อ Tokyo Motor Show ในปี 2015 และมาต่อเนื่องทุกๆ 2 ปี มาจนปัจจุบันมารวม 5 ครั้ง ใน 10 ปี
ปีนี้กลับเป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความตื่นเต้นที่ได้เห็นรถใหม่ ในงานและหลายคันเป็นรถพร้อมขาย (แม้ไม่รู้เขาจะเอาไปขายไทยไหม) มากกว่าต้นแบบเพ้อผัน ให้ชาวโซเชี่ยลแซะว่า “ทำมาก็ไม่ขาย”
ในกลุ่มนี้มีอยู่หลายคัน ที่เราคนไทยให้ความสนใจมากก็น่าจะไม่พ้น เจ้า Toyota Land Cruiser FJ สายลุยน้องเล็กพื้นฐาน IMV จากกระบะในไทย ออกมาเอาใจคนทั่วโลก พกเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตรพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไปก่อนในเวลานี้
แม้คนไทยจะบ่นอุบเรื่อง ทำไมพี่ไม่ทำเครื่องยนต์ดีเซลครับ แต่จากที่ดูการตอบระบคนญี่ปุ่นเขาไม่มีปัญหา เรื่องเครื่องยนต์ตัวนี้ เพราะมันเป็นซิกเนเจอร์ของ Land Cruiser ขนาดเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผมเคยอยู่ค่ายรถยนต์รายหนึ่งบอก ถ้าเขาจะซื้อคันใหม่หลังจากเดิมงานนี้ คันนั้นก็คือ “FJ”

Nissan Elgrand เป็นรถอีกรุ่น ที่คนญี่ปุ่น และสื่อต่างชาติสนใจ มีความเกี่ยวข้องกับไทยในฐานะ ว่าที่รถใหม่ ที่คาดว่าจะเข้ามาขายในไทย อีกไม่นานเกินรอ
เปิดผ้าคลุมออกมา หลายคนพูดในทางเดียวกันว่าเป็นรถที่มีความพรีเมี่ยมเกินหน้าตาหรูหราเกินคลาส อัลพาร์ดมีชิดซ้าย


ด้าน Subaru ถือเข็มมาทางเดียวกัน ส่ง Subaru Sti Performance – B Concept สายซิ่ง 5 ประตู ที่หลายคนเคยอยากได้งวดนี้กลับมาอีกครั้งในฐานะต้นแบบ
แต่มันเป็นต้นแบบที่มีความใกล้เคียงความจริงมากรถขับได้ (ขนาดว่าเสื้อกันหนาวเขายังไม่เอาลงจากรถ) มีการใส่ข้าวของมาในทรงพร้อมขาย



ตามสไตล์ซูบาุร มีความเป็นไปได้ที่จะประกาศจำหน่ายจริงในงาน Tokyo Auto Salon 2026 ต้นปีหน้า เป็นหนึ่งในรถที่ใครมองก็จะว่าน่าสนใจ เพราะซูบารุไม่ทำ 5 ประตูมานานมากนับตั้งแต่ Subaru Impreza WRX สมัยเคนบล็อกยังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และดูทรงซูบารุ อาจรีเทิร์น WRC ในรถคันนี้
ฝั่ง มาสด้า นำ Mazda CX-5 2026 มาโชว์ตัวภายในงาน เผยในรุ่น 2.5 G เวอร์ชั่นขายยุโรป เรียกน้ำย่อย ก่อนเตรียมมานำเสนอขายในประเทศญี่ปุ่น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นรุ่นนี้ตัวเป็นแล้วบอกว่า งามหลายๆ จนอยากปลุกความกล้ามาสด้าว่า รุ่นนี้ไม่ควรพลาดควรมาไทย อย่าไปเอารถทางจีนมาขายเยอะเลย
ด้าน ฮอนด้าปีนี้ โชว์ Honda Prelude ใหม่ ในฐานะรถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่วันนี้กวาดยอดขายไปมากในช่วงเดือนกันยายน จนต้องปิดรับจองในญี่ปุ่นชั่วคราว แม้คนไทยอาจจะคิดมันจะขายไทยมั้ย เอาเป็นรอฟังข่าวดี

ศึกไฟฟ้า Kei Car กำลังเดือด
ถ้าจะถามว่า ญี่ปุ่นกระเจื้องเรื่องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าบ้างไหม ตอบครับว่า ตื่นตัวมากโดยเฉพาะตลาดหลักสำคัญ Kei Car
กลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กสำหรับใช้งานในเมือง หรือที่เรารู้จักกันในนามรถ Kei Car ตั้งแต่นิสสัน เปิดเกมส่ง Nissan Sakura ปีนี้เราได้เห็นความตั้งใจทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กมากขึ้น และเป็นศึกที่ญี่ปุ่นเองจะยอมไม่ได้
ที่เตรียมจะขายเลยมี Honda Super One ว่าที่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อชีวิตคนเมือง เตรียมออกวางจำหน่ายในเร็วๆนี้จากทางฮอนด้า

รถรุ่นนี้ไม่เพียงแค่จะขายจริง ยังใส่ความเป็นรถซิ่งเข้ามาทำให้ลูกค้าหลายคนสนใจ โดยเฉพาะ Boost Mode เน้นการตอบสนองเร็วขึ้นปรี๊ดปร๊าด เรือนร่างมุ่งเน้นในความสปอร์ต ประหนึ่ง N-One wide Body

มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า การตลาดประเทศไทย สนใจอยู่ไม่น้อย มันมีความเป็นญี่ปุ่นแท้ เข้าเงื่อนไขภาษีรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่รถยนต์แนวที่ประเทศจีนวางขาย ราคาจริงก็พอคุยกันได้กับยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ถูกใจคนรุ่นใหม่ ทุกอย่างเข้าล็อคติดต่อคนฮอนด้าญี่ปุ่น จะเอาด้วยหรือเปล่า
ทางฝั่ง Suzuki เอง ก็มี ว่าที่รถเล็กไฟฟ้า ออกมาโชว์ตัวในนาม Suzuki e-Sky Concept พร้อมวางขายในอนาคต แต่ดูเหมือน Suzuki จะดูเคลื่อนไหวตัวช้าไปนิดเนื่องจากยังเป็นต้นแบบอยู่ ไม่ใช่คันจริงเสียทีเดียว
ผิดกับทางค่ายรถยนต์ฝั่งจีน BYD กะตีไข่แตกตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นด้วย BYD Racco รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อคนเมืองตามโครงการ Kei car รายละเอียดมีในเบื้องต้น พกแบตเตอร์รี่ 20 KW มาพร้อมระยะทางสูงสุด 180 ก.ม./การชาร์จ DC 100 kw
ที่น่าสนใจคือ BYD Racco ออกแบบ โดยคนญี่ปุ่น เลยมีรูปทรงตามสไตล์ คนญี่ปุ่นน่าจะชอบ อ่านจากทาง พี่จิมมี่ Headlight ทราบว่าเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบ Nissan Dayz
นอกจากรถเล็กก็ยังมี กลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็คอาทิ Suzuki e-vitara และ Nissan Leaf เจนใหม่ เช่นเดียวกับ Subaru อวดโฉม Subaru Trailseeker ครั้งแรกในงานนี้ด้วย เป็นอีกตลาดที่ญี่ปุ่นดูจะมีความต้้งใจจริงๆ



ต้นแบบล้ำอนาคต แต่ไม่ดาวอังคาร
ทางด้านกลุ่มรถต้นแบบ Japan Mobility Show 2025ค่อนข้างจะเป็นรถที่มีความใกล้ตัวในระดับหนึ่ง
ทางฝั่ง โตโยต้า มีต้นแบบ 3 คัน ที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ เริ่มจาก Toyota Corolla Concept รถต้นแบบว่าที่รุ่นต่อไปเป็นการส่งสัญญาณว่า อีกไม่เกิน 2 ปีเจอกัน

เส้นสายว่าที่รุ่นใหม่ค่อนข้างจะมีความสปอร์ตกว่ารุ่นปัจจุบัน ด้านท้ายมีความกลมกลืนระหว่าง Toyota Supra + Lexus IS มีความป่องทันสมัย และปราดเปรียว นานแล้วที่เราไม่เห็นโตโยต้าทำอะไรแบบนี้ แม้คันขายจิงจะทอนเส้นลงไปจากนี้แต่ก็น่าจะว้าวอยู่


ในตัวรถต้นแบบยังเน้นไปที่การเป็นรถยนต์ไฟฟ้า เราแอบได้คุยกับคนญี่ปุ่นบางคนที่อยู่บริเวณงาน เขาบอกว่า Toyota Corolla รุ่นต่อไป จะใหญ่กว่า Toyota Prius และมีทุกระบบขับเคลื่อน ไม่ว่าจะไฟฟ้า PHEV และ ไฮบริด
อีกคันที่ผมแอบแปลกใจคือการนำเสนอ รถ Toyota IMV Origin รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มาในแบบมินิมอล จนใครเห็นก็ตั้งคำถามว่า กรมการขนส่งทางบก จะรับจดทะเบียนไหม
ความตั้งใจของโตโยต้าของรถรุ่นนี้คือ เป็นรถเน้นใช้งานในพื้นที่เฉพาะ สามารถปรับแต่งได้หลากหลายตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งนิยมมากในหมู่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รายละเอียดตัวรถยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ถือเป็นรถที่หลายคนให้ความสนใจเช่นกัน


และสำหรับสายรถตู้ทั้งหลาย ของแสดงความยินดีครับ เพราะในงาน มีต้นแบบ Toyota Hi-Ace Concept ใหม่ออกมาโชว์ตัว ด้วยหน้าที่โคตรล้ำสมัย รายละเอียดตัวรถยังไม่เปิดเผย ที่โชว์ในงานยังเน้นที่สายพาณิชย์ เนื่องจากในญีปุ่นรถตู้เน้นนำมาทำงานแบบนี้หรือไม่ก็แคมป์คาร์
ที่จริงฝั่งโตโยต้ายังมีอีกหลายคัน หนึ่งในนั้น คือ Century แบรนด์รถยนต์ไฮเอนด์ออกมาเอาใจสาวกสายหรู ยกระดับสู่การเป็น Ultra Luxury เปิดตัวรถต้นแบบ Century one of one ว่าที่สปอร์ตหรูที่สุดของที่สุด และมีแผนในการเปิดตัวรุ่น SUV ,ซีดานด้วยในอนาคต



กลับมาทางด้าน ฮอนด้า ในงานปีนี้มีรถต้นแบบใหม่ Honda Zero Alpha น้องเล็กในตระกูลรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ของฮอนด้า ที่น่าสนใจที่สุดคือ ทางผู้พัฒนาระบุว่า ฮอนด้ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขายรถรุ่นนี้ในประเทศไทย เบื้องต้นจะมีการนำเสนอในประเทศอินเดียและญี่ปุ่นก่อน
จุดเด่นคือตัวรถจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Asimo ดังนั้นมันไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นรถที่มีซอฟท์แวร์เป็นของตัวเอง (มีความคิดเป็นของตัวเองด้วยในระดับหนึ่ง)

ทางด้านมิตซูบิชิ เป็นอีกค่ายที่น่าสนใจ ส่ง Mitsubishi elevance Concept ว่าที่อเนกประสงค์ใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรุ่นไหนแต่ถ้าเดาคร่าว อาจเป็นว่าที่ Mitsubishi Outlander ใหม่ ไม่ก็ Eclipse Cross แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่มันจะเป็นร่างว่าที่ Mitsubishi Pajero ใหม่ เช่นกัน

ตัวรถนำเสนอความทันสมัยล้ำยุค แต่สิ่งที่อยากจะสื่อสารจริงๆ เหมือนจะเป็นเส้นงานออกแบบใหม่ กลายความคิดเรื่อง Mitsubishiness สู่ยุคใหม่
โดยเฉพาะทางด้านหน้าที่จะปรับจาก funtional มาสู่ภาพความงามและยังใช้งานได้จริง หน้ามีความแหลมคมลดลง ด้านข้างจะมีความสะอาดตาในการออกแบบมากขึ้น รวมถึงด้านหลัง จะมาพร้อมเอกลักษณ์ใหม่ชุดไฟที่ดูแล้วมีความงามสะอาดตากง่ารถมิตซูบิชิในปัจจุบันพอสมควร
เบื้องต้นมีรายงานว่าจะเป็น PHEV จึงแทงไปทาง 2 รุ่นใหญ่ที่ขายในญี่ปุ่นมากกว่า แต่เป็นไปได้ มันอาจจะเป็นเส้นของปาเจโร่ ที่ออกมาโชว์ตัวพลางๆก่อนขายในเร็วๆนี้
แต่ไฮไลท์เรื่องรถต้นแบบจริงๆ ปีนี้ยกให้มาสด้า กับการนำเสนอรถต้นแบบ Mazda Vision X 2 คัน โดยคันแรกเป็น VisionX Coupe รถ 5 ประตู ทรงสปอร์ต มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นไม่มาสด้า 6 กับ มาสด้า 3 ใหม่ ทรงแบบนี้น่าจะถูกใจสาวก กับเส้นสายคลีนๆ สะอาดตา มีความพรีเมียม


แต่ที่ทำเอาสื่อไทยว้าวไปตามๆ กันคือ Mazda Vision X Compact รถยนต์ต้นแบบ ว่าที่น้องเล็กไม่ต้องบอกก็รู้ Mazda 2 ใหม่ หรือในญี่ปุ่นใช้ชื่อ “Mazda Demio” เตรียมทำตลาดในอนาคต
เส้นสายรถคันนี้เปลี่ยนไปมาก มันมีความเป็นรถยุโรปมากขึ้น โดยเฉพาะตูดโค้ง มาสด้านำมาใช้เป็นครั้งแรกจนบางคนแซวว่า มาในแนวรถอิตาลี


ส่วนทางด้านหน้ากวาดกระจังหน้าปิดทึบอาจเป็นได้ทั้งสันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า มาสด้ายังมุ่งเน้นที่การออกแบบตัวรถให้น่าสนใจด้วยการนำเสนอภายใน มินิมอลมากๆ ภายในมาพร้อมมาตรวัดอันเดียวเบาะสปอร์ต และอินเตอร์เฟซ ที่ทำให้เราเชื่อว่าต่อไปจะเชื่อมต่อกับมือถือแบบไร้รอยต่อมากขึ้น ในการใช้งานเครื่องเสียง ระบบความบันเทิง หรือกระทั่งการนำทาง
พื้นที่โดยสารตอนหลัง เท่าที่ดู มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่ารุ่นเดิม แม้ว่าขนาดตัวรถจะย่อลงจากเดิม ความยาวเพียง 3.8 เมตรเท่านั้น ถือเป็นเกมที่เราต้องจับต่อในว่าที่รถใหม่คันนี้
รถไทยไปญี่ปุ่นมากขึ้น
ท้ายสุดหลังจากเดินในงาน ผมมาลองประมวลผลแล้วพบว่า ไทยกำลังถูกค่ายญี่ปุ่นชู ให้เป็นฐานการผลิตสำคัญกว่าปัจจุบัน โดยเฉพาะ 2 แบรนด์ใหญ่ โตโยต้าและฮอนด้า
ในกรณี ฮอนด้า ในงานมีการโชว์ตัว Honda CR-V e:HEV RS Black Edition ผลิตจากไทย เป็นสัญญาณเดินเกมใหม่และดูจะพยายามพยุงการไม่สั่งปิดโรงงานอยุธยาตามแผนที่เคยออกมาเปิดเผยออก


ทำให้ปัจจุบัน ฮอนด้าส่งรถยนต์จากไทยไปญี่ปุ่นแล้ว 2 รุ่น คือ Honda Accord และ Honda CR-V
ทางฝั่งโตโยต้า มีแผนในการส่งออก Toyota Land Cruiser FJ ออกจากโรงงานไทยไปทั่วโลกโดยเริ่มที่ตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเดินเกมในทิศทางเดียวกัน
โดยรถที่โชว์ให้สื่อทั่วโลกในงานได้ชม (คันสีฟ้า) ก็เป็นรถจากโรงงานในไทย เรื่องคุณภาพในการประกอบก็จัดว่าท๊อปหนึ่ง ของความเนี้ยบเป็นรองเพียงโรงงานในญี่ปุ่นเท่านั้น
นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีและการขยับตัว ที่น่าสนใจของแบรนด์ญี่ปุ่น ซึ่งนอกจาก 2 แบรนด์ดังกล่าว คงมีอีกหลายแบรนด์ที่ยังคงจะเดินตามแนวทางนี้อีกในอนาคตและนั่นอาจคือ นิสสัน และมิตซูบิชิ

สรุป Japan Mobility Show 2025 ค่ายญี่ปุ่นไม่นิ่ง เน้นรถที่จับต้องได้

ในภาพรวม งาน Japan Mobility Show 2025 เราจะเห็นการขับเคลื่อนของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นคือ
- เตรียมขายรถที่คนอยากได้เปิดแล้วมีคนเรียงคิวซื้อแน่นอน
- รถต้นแบบที่ออกมา เป็นรุ่นที่คนเฝ้ารอ และเป็นตัวขายจริง
- เริ่มตื่นตัวรถยนต์ไฟฟ้า (แม้จะช้ากว่าจีน) เน้นที่ตลาด Kei Car และ Compact Crossover
ส่วนประเทศไทยในเวลานี้เราได้ปักหมุดลงบนฝ่ายบริหารบางแบรนด์ในฐานะ ฐานการผลิตสำคัญ ซึ่งจริงๆ เราก็เป็น,านานแล้ว แต่หลังๆ รถที่ไปขายจากไทยน้อยลง
วันนี้ญี่ปุ่นกลับมาให้ความใส่ใจมากขึ้น เขากล้าเอารถจากไทยกลับไปขายในบ้านเขา การันตีการยอมรับในผลงานคนไทยมากขึ้น
วิศวกรคนญี่ปุ่นบางคนถึงกับมาใช้ชีวิตในประเทศไทยเป็นปี เพื่อศึกษาการพัฒนารถให้ตรงโจทย์ บางคนเดินไปโดยเฉพาะแบรนด์โตโยต้า เอ้า!! พูดไทยกับเราเฉย ..
ญี่ปุ่นเขาให้ความสำคัญกับไทยจริง เขามองเราเป็นมิตรแท้ ที่เกื้อกูลกันมายาวนาน
