โลโก้แบรนด์ คือสิ่งสำคัญ ในฐานะตัวแทน สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงตัวตนของแบรนด์ต่อสายตาชาวโลก และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ทางค่าย Suzuki ก็ต้องปรับโลโก้นี้ตาม เพื่อให้มันได้เป็นที่จดจำกับผู้ใช้ยุคใหม่
“S” Logo คือตราสัญลักษณ์ของรถยนต์จากแบรนด์ Suzuki ที่ทางค่ายใช้มาตั้งแต่ปี 1983 และการปรับเปลี่ยนรูปแบบโลโก้ครั้งล่าสุดก็ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2003 โดยมีการปรับเพิ่มความโครเมี่ยมเข้าไป เพื่อเล่นกับแสงเงาตกกระทบ ช่วยให้โลโก้แบรนด์ดูมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ทาง Suzuki บริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจเปิดตัวโลโก้แบรนด์ใหม่อีกครั้ง โดยปรับเอาความโครเมียมออกไป เปลี่ยนเป็นหน้าสัมผัสเงินด้าน คล้ายๆกับงานอลูมิเนียมบรัชแทน เพื่อปรับภาลักษณ์โลโก้ให้ดูมีความมินิมอล สะอาดตา มีความเป็นดิจิตอลมากขึ้น และยังสื่อถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆด้วย
โดยเทรนด์การปรับโลโก้แบรนด์ให้มีความมินิมอล และดิจิตอลมากขึ้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์ในปัจจุบัน เพราะในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ามีผู้ผลิตหลายรายที่ตัดสินใจเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ใหม่ ให้ถูกใจผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น VW, Audi, Nissan, Mazda, BMW, Mini, Volvo, Kia, Opel, Renault, Peugeot, Aston Martin, Bentley, Lotus, Jaguar, Buick, Lamborghini หรืออย่าง Honda ที่แม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนโลโก้หลัก แต่ก็มีโลโก้ของรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ แยกออกมาเฉพาะเช่นกัน
ส่วนรถคันแรกที่เราจะได้เห็นกันว่ามากับ “S” Logo แบบใหม่นี้ ทาง Suzuki ระบุว่าจะเป็นรถต้นแบบที่เปิดตัวในงาน Japan Mobility Show 2025 และคาดว่าหลังจากนั้นจะมีการนำไปใช้กับรถยนต์โมเดลใหม่ ที่เปิดตัวรุ่นปรับโฉมในปี 2026 เป็นต้นไป
“ตราสัญลักษณ์ของแบรนด์แบบใหม่นี้ จะแสดงถึงคำมั่นสัญญาของ Suzuki ที่จะผลักดันตนเองให้เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า, ซึ่งเป็นแกนหลักของเรามาโดยตลอด, เช่นเดียวกับการตัดสินใจของเราที่จะมุ่งไปสู่ความท้ายทายใหม่ในยุคสมัยที่กำลังจะมาถึง” Toshihiro Suzuki ประธานสูงสุดของ Suzuki กล่าวอธิบายความเป็นมาในการเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ครั้งใหม่นี้
“ภายใต้นิยาม ‘อยู่เคียงข้างคุณ’, เราจะเดินหน้าขยายโครงสร้างด้านยานยนต์ให้มีความใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของทุกคน, ขับเคลื่อนไปข้างหน้ากับลูกค้าของเราและสนับสนุนการให้ความสำคัญกับอนาคตอันยั่งยืน”
