นับตั้งแต่การเข้ามาของ Lotus Emiya และ Lotus Electre ในไทย เราก็จะเห็นได้ว่าพวกมันต่างเป็นรถที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และจะยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีกกับรถรุ่น MY2026 ที่พึ่งถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้

Lotus Emiya และ Lotus Electre ต่างเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่ทาง Lotus ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในระดับ Upper Luxury โดยพวกมันต่างยังคงเอกลักษณ์ความเป็นรถจากแบรนด์ Lotus ด้วยการใส่งานออกแบบภายนอกที่เน้นความถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ มีช่องรีดลมต่างๆมากมาย ทั้งด้านหน้า ฝากระโปรง ด้านข้าง และด้านหลัง แม้กระทั่งชุดล้อ กับกล้อง กระจบมองข้าง และมือเปิดประตูต่างๆ ยังถูกออกแบบมาให้สามารถลดแรงต้านอากาศใด้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในส่วนภายในห้องโดยสาร ยังจัดเต็มด้วยลูกเล่นมากมาย ทั้งเบานั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า โดยมีวัสดุหุ้มให้เลือกทั้งแบบผ้าวีแกน หรือหนังกลับอัลคันทาร่า แล้วแต่รุ่นย่อย และยังเลือกเฉดสี หรือรูปแบบทรงเบาะได้อีกตามความต้องการ
นอกนั้นยังมีชุดหน้าจอให้ปรับใช้อีกหลากหลาย ทั้ง หน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถ, หน้าจออินโฟเทนเมนท์ตรงกลาง กับทางฝั่งผู้โดยสาร, และยังมีหน้าจอ HUD ขนาด 29 นิ้ว กับหน้าจอหลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
รวมถึงระบบเครื่องเสียงจาก KEF ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยชุดลำโพง 15 ตำแหน่ง กำลังขับ 1,380 วัตต์ สำหรับรุ่นล่าง และจะจัดเต็มเป็นลำโพง 23 ตำแหน่ง กำลังขับ 2,160 วัตต์ ในรุ่นบน
ขุมกำลังตัวรถทั้งสองรุ่น ยังคงอัดแน่น และแบ่งเป็น 2 สเป็คดังเดิม ได้แก่ รุ่นมอเตอร์คู่ 603 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร ในฝั่ง 600-Series กับ รุ่น 905 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ในฝั่ง 900-Series
ส่วนแบตเตอรี่ ก็จะมีทั้งหมด 2 ขนาด โดยในฝั่งตัวรถ Emiya ที่เป็นรุ่นซีดาน จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 102 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 485-610 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP แล้วแต่รุ่นย่อย สามารถชาร์จไฟกลับในโหมด DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 355 kW ช่วยให้การชาร์จไฟจาก 10-80% ใช้เวลาเพียง 18 นาที และชาร์จไฟด้วยโหมด AC ได้สูงสุด 22 kW ช่วยให้การชาร์จไฟจาก 0-100% ใช้เวลาเพียง 5.5 ชั่วโมง
ขณะที่รุ่น Electre ที่เป็นรุ่นอเนกประสงค์ จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 112 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 500-600 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP แล้วแต่รุ่นย่อย สามารถชาร์จไฟกลับในโหมด DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 355 kW ช่วยให้การชาร์จไฟจาก 10-80% ใช้เวลาเพียง 20 นาที และชาร์จไฟด้วยโหมด AC ได้สูงสุด 22 kW ช่วยให้การชาร์จไฟจาก 0-100% ใช้เวลาเพียง 5.8 ชั่วโมง
ด้านลูกเล่นอื่นๆน่าสนใจ ตามแต่ละรุ่นย่อยที่มีให้เลือกซื้อ ก็มีทั้ง ออพชันชุดแต่ง Carbon Pack, ชุดแต่ง Extended Carbon Pack, คาลิปเปอร์เบรกหน้า 6 พอร์ท, คาลิปเปอร์เบรกหน้า 10 พอท พร้อมจานคาร์บอนเซรามิค, ชุดล้อที่มีให้เลือกขนาดตั้งแต่ 20-23 นิ้ว, เฉดสีให้เลือก ทั้งรุ่น Emiya และ Electre ฝั่งละ 7 สี, ระบบ ADAS ขั้นสูง, ระบบช่วยจอด, ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อใช้งานบนทางด่วน, และระบบเหล็กกันโคลงไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มสเถียรภาพในการใช้งานของรถให้สูงขึ้น
โดยสำหรับตัวรถ Lotus Emiya และ Lotus Electre รุ่นใหม่ปี 2026 จะมีการปรับไลน์อัพใหม่จากรุ่นปีก่อนๆให้มีความละเอียด ชัดเจน พร้อมทำราคาให้ผู้ที่สนใจจะสามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น นั่นคือ
2026 Lotus Emiya
- 600 : 4,890,000 บาท
- 600 GT SE : 5,690,000 บาท
- 600 Sport SE : 6,690,000 บาท
- 900 Sport : 7,290,000 บาท
- 900 Sport Carbon : 7,990,000 บาท

2026 Lotus Electre
- 600 : 5,290,000 บาท
- 600 GT SE : 5,690,000 บาท
- 600 Sport SE : 6,690,000 บาท
- 900 Sport : 7,290,000 บาท
- 900 Sport Carbon : 7,990,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลตัวรถกับทาง Lotus Thailand ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป