Home » XPENG G7 เสริมรุ่นไฟฟ้าขยายระยะทาง 440 แรงม้า จ่อขายจีนเร็วๆนี้
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

XPENG G7 เสริมรุ่นไฟฟ้าขยายระยะทาง 440 แรงม้า จ่อขายจีนเร็วๆนี้

หลังจากขายเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนของ XPENG G7 เมื่อช่วงกลางปีล่าสุด XPENG พร้อมที่จะเสริมทางเลือกใหม่สำหรับสาวกสันดาปด้วยพลังไฟฟ้าขยายระยะทาง หรือ EREV

ขุมพลังใหม่ไฟฟ้าขยายะระยะทาง หรือ EREV สำหรับ XPENG G7 ประกอบด้วยเบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้าจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 296 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุแบตเตอรี่ 55.8 kWh ให้ความเร็วสูงสุด 202 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน 325 กิโลเมตร (CLTC) แต่ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องระยะทางวิ่งไกลสูงสุดเมื่อทำงานทั้งระบบ

พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกได้แก่ Comfort, Standard, Sport และ Personalized มีระบบชาร์จกลับ X-Pedal Energy Recovery ที่ปรับได้ 4 ระดับ (Off/Low/Medium/High) พวงมาลัยไฟฟ้าและแป้นเบรกสามารถปรับน้ำหนักได้ 3 โหมด (Comfort/Standard/Sport) รองรับการชาร์จทั้งกระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC) และมีฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) ขนาด 3.3 kW

กับภายนอกที่ไม่ต่างจากรุ่นอีวีล้วนตั้งแต่ ไฟหน้า LED ที่ฝังอยู่ในกันชนหน้าและแถบไฟ DRL (Daytime Running Light) แบบยาว ด้านหน้าเป็นกระจังหน้าแบบทึบพร้อมโลโก้ XPENG กันชนหน้ามีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่สามารถปิด-เปิดได้ เพื่อลดแรงต้านลม พร้อมกระจกรถทรงโอเปร่าแบบไร้กรอบ (Frameless Door) มือจับประตูที่เรียบเนียนไปกับตัวถังรถ ส่วนด้านท้ายมีดีไซน์สวยงามด้วย ไฟท้าย LED แนวนอน ล้อมรอบด้วยโลโก้ XPENG และสปอยเลอร์หลังสีดำแบบ LED แนวนอนที่ติดอยู่บนกระจกหลัง

ล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้งขนาด 19-20 นิ้ว พร้อมยาง จาก Michelin และดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีดำ XPENG G7 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEPA 2.0

XPENG

ภายใน ยกมาจากเวอร์ชันอีวีด้วยห้องโดยสารติดตั้ง จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Full Scenario Voice Assistant 2.0 ซึ่งสามารถรับคำสั่งเสียงแบบต่อเนื่องได้แบบ Real-time, รองรับการใช้งานแบบมัลติโซน และการใช้งานแบบออฟไลน์ นอกจากนี้ยังมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์อัตโนมัติแบบ OTA (Over The Air) เพื่อให้รถมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่เสมอ

ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon SA8295P ช่วยให้สามารถแสดงระบบนำทางแบบ 3 มิติได้ แผงคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมมาตรวัดความเร็วขนาด 10.25 นิ้ว และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน บริเวณคอนโซลกลางติดตั้งที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลังไฟสูง 50W และลำโพง 20 จุด เบาะนั่งเป็นแบบกึ่งหนังแท้ NAPPA ปรับไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบอุ่นและระบายอากาศ เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่ในการขนของมากถึง 2,277 ลิตร และ 819 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ และช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า 120 ลิตร

พร้อมหลังคาพาโนรามิกขนาด 2.1 ตารางเมตร ที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ 99.9% และป้องกันรังสีอินฟราเรดได้ 97.6% นอกจากนี้ยังมีไฟ Ambient Light ที่ปรับได้ถึง 256 สี จอด้านหลังแบบสตรีมมิ่งขนาด 9 นิ้วที่ให้ความคมชัดแม้ในเวลากลางคืนหรือฝนตก และวัสดุภายในที่เป็นไมโครไฟเบอร์พร้อมโทนสีภายใน 4 สี

อีกหนึ่งความล้ำสมัยคือระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้าแบบ AR-HUD “Light Pursuit Panorama” ขนาด 87 นิ้ว ที่พัฒนาร่วมกับ Huawei โดยรองรับระบบนำทาง AR แสดงข้อมูลถนนจริง ทางแยกที่ซับซ้อน และการแจ้งเตือนเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ พร้อมคุณสมบัติลดการสั่น ลดความเพี้ยน และความหน่วง

กับความปลอดภัยด้วย ระบบขับขี่อัตโนมัติที่ทำงานด้วย AI Eagle Eye ซึ่งใช้กล้องที่มีความคมชัดสูง 10 เท่า รองรับ HDR และมีระยะการมองเห็นที่คมชัด พร้อมความสามารถในการรับรู้ที่เพิ่มขึ้น และทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อยและย้อนแสง เทียบเท่ากับระบบ XNGP ด้วยชิป Turing AI ที่พัฒนาโดย XPENG

ในรุ่นท็อปสุดมีการติดตั้งชิปประมวลผลถึง 3 ตัว ให้พลังประมวลผลรวมกว่า 2,200 TOPS ซึ่งเทียบเท่ากับชิป Nvidia Orin-X 9 ตัว รองรับการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง NGP (Navigation Guided Pilot) ทั้งในเมืองและบนทางหลวง พร้อมระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติแบบ End-to-End โดยเตรียมขายจีนเร็วๆนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.