ผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นหลังการประกาศเลื่อนกำหนดการขายรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ออกไป ล่าสุดบอสใหญ่ของ Lamborghini ก็ได้ออกมาอัพเดทข้อมูลของตัวรถรุ่นนี้เพิ่มเติม ว่ามันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็เป็นได้เสียอย่างนั้น

ย้อนไปเมื่อปี 2023 รถ Lamborghini Lanzador ได้ถูกเปิดตัวร่างต้นแบบพร้อมประกาศอย่างชัดเจนว่ามันจะถูกเปิดตัวในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์กระทิงดุ ภายในปี 2028 ก่อนที่ต่อมาเมื่อปลายปีก่อน จะถูกประกาศเลื่อนกำหนดเป็นปี 2029 และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็เปรยว่าอาจจะมีการเลื่อนเป็นช่วงไม่เกินปี 2030 จนกระทั่งล่าสุดก็ยังประกาศอีกว่ามันอาจจะไม่ได้ใช้ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วนใดๆเลยเพราะจะถูกผันตัวเป็นรถยนต์ PHEV แทน
สิ่งที่เกิดขึ้น เผยให้เห็นว่าทาง Lamborghini ไม่ค่อยมั่นใจในผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของตนเองมากนัก ทว่านั่นไม่ใช่เพราะเรื่องของประสิทธิภาพตัวรถ แต่เป็นเรื่องความต้องการของลูกค้าจากการสำรวจข้อมูลของตนเองที่พบว่ามันยังดีไม่พอ หรือไม่มากพอที่จะทำรถออกมาขายจริง
“เราได้ตัดสินใจไปสองเรื่องโดยอิงจากแนวโน้มการยอมรับในรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกและทั้งโลก, ไม่ใช่แค่ในเซ็กเมนท์เดียวกับเราเท่านั้น ที่ราบเรียบ (ไม่เติบโตอย่างก้าวกระโดด) และมันยิ่งเป็นแบบนั้นกับรถแบบที่เราทำ” Stephan Winkelmann ผู้บริหารสูงสุดของ Lamborghini กล่าวกับสื่อ CarExpert
“การตัดสินใจแรกคือ ตัวแทนของ Urus จะยังคงเป็นรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ต่อไป (จากที่เคยระบุว่าจะมีรุ่น EV ด้วย), และเราจะเลื่อนกำหนดการเปิดตัวรถยนต์โมเดลที่สี่(Lanzador)ออกไปอีก”
โดยเมื่อนาย Winkelmann ถูกถามถึงว่า แล้วมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่ Lanzador จะมาพร้อมกับทางเลือกร่างขุมกำลัง PHEV สื่อต้นทางก็ได้คำตอบกลับมากว่า “เราต้องตัดสินใจอีกทีว่าเราจะเลือกทางเดิมหรือไปทางอื่นในเร็วๆนี้, แต่ในวันนี้ มันก็มี… มีความเป็นไปได้ (ที่รถจะกลายเป็น PHEV แทน EV), แต่ตอนนี้มันยังเป็นไปได้หลากหลายรูปแบบมากๆ”
และเมื่อสื่อต้นทางถามต่อว่า แล้วเมื่อไหร่กันที่เราจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์กระทิงดุ นาย Winkelmann ก็ได้ระบุเอาไว้ว่า “เช่นเคย, เราไม่จำเป็นต้องไปอยู่ในจุดเริ่มต้น (ไม่ต้องเป็นผู้นำเทรนด์) แต่เราจะไปอยู่ตรงนั้นก็ต่อเมื่อผู้คนพร้อมจะซื้อมันจริงๆ”, “และสำหรับผม, นี่คือหนทางสู่ความสำเร็จสำหรับบริษัทแบบเรา”
“เราคือบริษัทเทคโนโลยีและการขับขี่, แต่จากสิ่งที่เป็นอยู่, เราต้องมองไปที่เรื่องของอารมณ์ร่วมของผู้คนที่อยู่รอบๆตัวเราอยู่เสมอ, และต่อมาคือผู้ซื้อด้วย, เพราะสมรรถนะคือการขับขี่องค์รวม ไม่ใช่แค่การเร่ง หรือความเร็วสูงสุด, แต่มันคือความรู้สึก”
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการทำขุมกำลังเครื่องยนต์ สำหรับใช้งานในรถยนต์ของตนเอง ก็คืออีกหนึ่งด้านที่ทาง Lamborghini พยายามอย่างหนักแน่นว่าจะรักษาให้มันยังคงมีอยู่ในรถของแบรนด์ให้ยาวนานที่สุด และหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ ก็คือการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ ที่อาจเป็นทางรอดระยะยาวของเครื่องยนต์สันดาปภายใน จากมุมมองของแบรนด์กระทิงดุ
“ถ้าน้ำมันสังเคราะห์จะมาจริงๆ, มันก็เป็นโอกาสที่ใหญ่หลวงมากๆ ที่เราจะรักษาเครื่องยนต์สันดาปภายในเอาไว้ได้” Winkelmann กล่าว “นอกจากนั้น, แน่นอน, หัวข้อก็คงเป็น, เราจะรักษามันให้อยู่กับเรานานที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยก็สำหรับรถซุปเปอร์คาร์ 2 รุ่น (นั่นคือรุ่นเรือธง แบบ Revuelto และรุ่นตัวรองแบบ Temerario)