I-Motor ในฐานะผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทยอันดับหนึ่ง ประกาศเตรียมรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยเพิ่ม พร้อมเสริมทัพความร่วมมือด้านเทคโนโลยีจากบริษัทดังสัญชาติญี่ปุ่น Asahi Denso เปิดตัวระบบคันเร่งไฟฟ้าแบบใหม่ เพื่อลดความเมื่อยล้า และสร้างประสบการณใหม่ที่ดีกว่าของผู้ขี่ขณะใช้งาน

I-Motor ประกาศจับมือกับพันธมิตรใหม่สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Asahi Denso ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนากระบวนการผลิตต่างๆในอุตสาหกรรมยานยนต์ และ พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซ็นเซอร์ สำหรับยานพาหนะให้กับผู้ผลิตหลากหลายแบรนด์
โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากการจับมือระหว่างทั้ง 2 บริษัทครั้งนี้ ก็คือการพัฒนาระบบคตันเร่งไฟฟ้าแบบใหม่ ที่จะช่วยเปลี่ยนภาพจำการใช้งานแบบดั้งเดิมของผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ให้เปลี่ยนไป จากการใช้แฮนด์คันเร่งแบบบิดขึ้นลงด้วยมือและข้อมือ ให้เป็นการสั่งการด้วยนิ้วโป้งเพียงอย่างเดียว จากแป้น หรือปุ่มคันเร่งที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่จากความร่วมมือนี้แทน
การทำงานของระบบคันเร่งแบบใหม่นี้ มีไอเดียในการออกแบบคือ การเปลี่ยน “รูปแบบการรับรู้ของมนุษย์กับเครื่องจักร” หรือ “Human-Machine Interface” ใหม่ ให้สะดวกและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยจะอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างเซนเซอร์จับตับแหน่งคันเร่ง หรือ APS (Accelerator Position Sensor) แบบใหม่ชิ้นส่วนคันเร่งแบบใหม่ ซึ่งมีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่

แบบแป้นกดคันโยกหมุนรอบแฮนด์ด้านใน หรือ Rotary Lever ซึ่งจะคล้ายๆกับแป้นคันโยกคุมคันเร่งของรถ ATV ไม่เป็น Jet Ski ที่หลายคนคุ้นชิน แต่ด้วยความที่คราวนี้ตัวแป้นดังกล่าวจะไม่ได้เชื่อมต่อกับลิ้นเร่งโดยสายสลิงชัก เพราะรถใช้ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า และแป้นทำงานร่วมกับเซนเซอร์ที่มีสปริงแรงต้านต่ำเบาคอยคุมตำแหน่งแป้นคันโยกแทน
และด้วยความเป็นเซ็นเซอร์ที่สามารถจับตำแหน่งและองศาการการบิดของคันโยก ทำให้ผู้ขี่สามารถคุมอัตราเร่งที่ตนเองต้องการใช้งานได้ละเอียด ทำให้การใช้นิ้วโป้งสั่งการตำแหน่งคันเร่งสามารถทำได้ง่ายดาย เบาแรง ไม่ปวดนิ้วง่ายๆเหมือนที่หลายคนเคยพบเจอ โดยที่เรายังสามารถคลอคันเร่งตามอากัปกิริยาของรถ และสภาพแวดล้อม ทางตรง ทางโค้ง ทางโล่ง รถติด เหมือนกับตอนใช้คันเร่งแบบบิดทั้งปลอกแฮนด์อย่างที่เราเคยคุ้นชินกันอีกด้วย
คันเร่งแบบถัดมา จะยังคงสั่งการได้ด้วยการใช้นิ้วโป้งดังเดิม แต่จะเป็นการสั่งด้วยการให้นิ้วโป้งไถปุ่มสไลด์ซ้าย-ขวาใต้แนวแฮนด์แทน หรือเรียกว่า “Thumb Slide” ซึ่งทำให้ผู้ขี่ต้องปรับตัวเข้าหาคันเร่งแบบนี้ และทำความเข้าใจก่อนการใช้งานสักหน่อย
แต่ข้อดีของระบบคันเร่งแบบนี้คือ มันจะทำให้มือของผู้ขี่ยังคงสามารถอุ้มจับแฮนด์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวเหมือนเดิม เพราะนิ้วโป้งของมือขวา จะยังคงอ้อมอยู่ใต้แนวแฮนด์บาร์ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเมื่อยล้าของนิ้วโป้งเพราะตัวน้ำหนักปุ่มสไลด์ก็ค่อนข้างเบา ใช้งานง่ายเช่นกัน
นอกจากนี้ ตัวปลอกแฮนด์ที่ทาง Asahi Denso พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ของ I-Motor ยังถูกออกแบบบให้มีรูปทรงที่ไม่ได้เป็นปลอกกลมสมมาตร แต่จะมีการทำรูปทรงให้เหมือนกับเป็นแป้นพักอุ้งมือ ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าขณะใช้งานได้ในตัวเช่นกัน
และภายในของแป้นที่ยื่นออกมา ยังมีอุปกรณ์สร้างแรงสั่นสะเทือน ซึ่งจะทำงานตามจังหวะไฟเลี้ยวที่ผู้ขี่สั่งเปิดขึ้นมา โดยจะสั่นตรงกับฝั่งไฟเลี้ยวที่ถูกเปิด และจะหยุดการทำงานเมื่อผู้ขี่ปิดไฟเลี้ยว ซึ่งหมายความว่ามันคือระบบแจ้งเตือนไม่ให้ผู้ขี่ลืมปิดไฟเลี้ยวนั่นเอง
โดยจากที่ผู้เขียนได้ลองทดสอบวิธีการทำงาน และการใช้งานของคันเร่งทั้งสองแบบ พบว่าเป็นไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยเฉพาะตัวคันเร่งแบบนิ้วโป้งสไลด์ที่ใช้งานค่อนข้างง่าย และปรับตัวเข้าหาได้ไม่ยาก แต่เนื่องจากตัวรถที่ทาง I-Motor นำมาให้ทดสอบ ที่ติดตั้งเซนเซอร์คันเร่งแบบใหม่เข้าไป ยังเป็นรถรุ่นต้นแบบ หรือ โปรโตไทป์ จึงทำให้อาจจะยังมีบางจุดที่ติดๆขัดๆ หรือขาดๆเกินๆในการใช้งานไปบ้าง
ซึ่งหลังจากที่ผู้เขียนได้ให้คำวิจารณ์ไป ทางตัวแทนจาก Asahi Denso ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆเหล่านี้ยังสามารถปรับแก้ได้ ด้วยการปรับจูนการทำงานของตัวเซนเซอร์และกล่องประมวลผลใหม่ก่อนที่จะขายจริง ซึ่งต้องรอพิสูจน์กันต่อไป ว่าพวกเขาจะทำให้มันมีความสมบูรณ์ได้มากขึ้นแค่แค่ไหน จากที่เป็นอยู่ในตอนนี้
โดย I-Motor ยังประกาศวางแผนรุกเข้าตลาดมอเตอร์ไซค์น้ำมันซึ่งเป็นตลาดดั้งเดิมเพื่อตอบสนองกับ นโยบายของภาครัฐที่มีการตั้งเป้า Carbon Neutrality ไว้ โดยจะมีการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เกิดสังคมมอเตอร์ไซค์ EV โดยเริ่มจากการวางจุดบริการชาร์จไฟ I-Charger กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ทั้งในส่วนของร้านผู้แทนจำหน่าย และขยายออกไปตามสถานที่ยุทธศาสตร์เรื่อยไปจนครอบคลุมการใช้งานของผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ I-Motor ในอนาคต
โดยปัจจุบันไอ-มอเตอร์มีโชว์รูมทั้งสิ้น 54 ดีลเลอร์ใน 29 จังหวัด รวมถึงในไตรมาส 4 ของปีนี้มีแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เสริมตลาดร่วมกับ I-Motor THUNDER และ I-Motor VAPOR ราคาเริ่มต้นราวๆ 57,000 บาท เพื่อพิชิตยอดขาย 2,400 คัน ทั่วประเทศในปี 2568 ด้วยแผนกระตุ้นยอดขายผ่านการออกบูทในงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ อย่างต่อเนื่องรวม 5 งาน ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ได้แก่
- 1. Mini motor show 2025 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 3 สิงหาคม 2568
- 2. 2025 Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride ระหว่างวันที่ 16 ถึง 17 สิงหาคม 2568
- 3. Big Motor Sale 2025 ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 22 ถึง 31 สิงหาคม 2568
- 4. Thai–China Cooperation EXPO 2025 ณ Challenger Hall เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 5 สิงหาคม 2568
- 5. I–Motor’s Dealer Business Trip to Japan Mobility Show 2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง วันที่ 31 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน 2568








