ท่ามกลางช่วงเวลาที่หลายค่ายพยายามลดความสำคัญของเครื่องยนต์บล็อคใหญ่ลูกสูบเยอะ เพราะข้อจำกัดด้านมลพิษ และอัตราสิ้นเปลือง แต่ทาง AMG กลับเลือกที่จะหันไปเน้นทำตลาดรถด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหญ่แทน เพราะลูกค้าของพวกเขา ไม่อันกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงที่แบรนด์มี

Mercedes-AMG ตัดสินใจเตรียมที่จะถอนการทำตลาดรถยนต์ในแบรนด์ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงไฮบริด ซึ่งตอนนี้มีถึง 4 รุ่นด้วยกันที่ใช้เครื่องยนต์รหัส M139 นี้อยู่ นั่นคือ C63, GLC63, SL43 และ GT43 โดยเปิดเผยกับสื่อ AutoCar เอาไว้ว่า “เรารับรู้ได้(ว่าผู้คนไม่ชอบมัน)” แม้ว่ามัน “จะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในรถโปรดักชันคาร์”
นอกจากเหตุผลที่ว่าตัวขุมกำลังไม่ได้เป็นที่ต้องการในหมู่ลูกค้ามากนัก อีกเหตุผลก็คือการพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็กประสิทธิภาพสูงให้ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 7 นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากและใช้งบประมาณที่สูง “ไม่มีใครสงสัยในประสิทธิภาพของมัน, นี่คือเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เราเคยทำมา
“แต่การลงทุนเพื่อให้มันผ่านมาตรฐาน Euro7 นั่นสูงมาก” จนอาจจะไม่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่น้อยลงเรื่อยๆ

ส่วนทางเลือกขุมกำลังใหม่ ที่จะถูกนำมาทดแทน ก็มีความเป็นได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้เห็นรถ AMG รหัส 43 ได้กลับมาใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ กันอีกครั้ง โดยมันอาจจะถูกปรับจูนพละกำลังใหม่ให้เหมาะสมกับความเป็นรหัสเริ่มต้นมากขึ้น และอาจได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีไมลด์-ไฮบริดเข้ามา เพียงเพื่อให้มันผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 7 เท่านั้น
ขณะเดียวกันทางแบรนด์ก็ยังจะกลับมาเดินหน้าทำตลาดรถด้วยเครื่องยนต์ V8 อีกครั้ง ซึ่งมันอาจจะดูขัดหูขัดตาเหล่านักรณรงค์ทั้งหลายไปบ้าง แต่ลูกค้า AMG ก็คงเลือกที่จะมาทางขุมกำลังนี้มากกว่า และทางค่ายก็ยังระบุอีกว่าเครื่องยนต์ลูกใหม่ที่พวกเขากำลังพัฒนาอยู่ จะสามารถปล่อยมลพิษในระดับที่ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro7 แน่นอน และยังดูเหมือนว่าจะทำได้ง่ายกว่าเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ที่กำลังจะถูกถอดออกไปจากไลน์อัพด้วย
โดยสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ V8 มีแนวโน้มที่จะปล่อยมลพิษได้ต่ำกว่าเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง นั่นก็อาจจะเป็นเพราะ ด้วยขนาดห้องเผาไหม้ที่ใหญ่ขึ้น เยอะขึ้น ทำให้มันสามารถดูดอากาศมาใช้ในการสันดาปได้มากกว่า ทำให้รถไม่จำเป็นต้องอัดฉีดน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้มากเกินไปเพื่อให้เค้นกำลังได้เท่าเดิม
และเมื่อรวมกับการใช้เทคโนโลยีระบบไมลด์-ไฮบริด หรือ ฟูลไฮบริดเข้าไป ก็จะยิ่งทำให้เครื่องยนต์ลดภาระในการใช้งานลงได้อีก เหลือแค่เพียงมารอดูกันว่าพวกเขาจะพร้อมขายจริงเมื่อไหร่ก็เท่านั้น เพราะทางค่ายบอกได้แค่เพียงว่า พวกเขาต้องใช้เวลาในการสร้างอีกสักพัก ในการพัฒนาเครื่องยนต์ V8 ลูกใหม่นี้