เวลาคุณซื้อรถ เราก็พยายามจะนึกว่า รถที่เราขับต้องดูดีโดดเด่น และมีความหรูหรา หลังจากหลายคนมีโอกาสซื้อรถยนต์คันแรก มักจะหนีขึ้นไปรถยนต์รุ่นที่ใหญ่ขึ้น ดูดีขึ้นกว่าเดิม แต่วันนี้เราจะพาคุณกลับมาดูรถยนต์เล็กสุดในตลาดอย่างอีโค่คาร์ ว่า มันมีข้อดีในการใช้งานและการซื้อหาไม่น้อยเลยครับ

 

1.ดาวน์ถูก

การซื้อรถยนต์ด้วยเงินผ่อนสักคัน ประการสำคัญอย่างแรกคือ การวางดาวน์  และรถยิ่งถูก การวางดาวน์ ก็ยิ่งน้อยลงตามไปด้วย สำหรับอีโค่คาร์ที่มีราคาตั้งแต่ 4 แสน – 6 แสนกว่าบาท การหาเงินดาวน์ มาออกรถกลุ่มนี้ง่ายดายมาก ใช้เงินไม่มากเท่าไรนักก็สามารถออกรถได้ทันที เรียกว่าปั้มเงินไม่ถึงแสนบาท ก็พอจะเป็นเจ้าของได้ทันที

 

2.ผ่อนถูก

เรื่องที่ตามมาเมื่อราคารถยนต์ไม่สูงมากก็คือว่า คุณมีโอกาสผ่อนงวดชำระถูกลง เมื่อเทียบกับรถที่มีราคามากกว่า การผ่อนรถถูกลง ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ และมีโอกาสเอาเงินไปทำอย่างอื่นมากกว่าจริงไหม

อีโค่คาร์

3.เป็นเก๋งดีเซลที่ราคาถูกสุด

ในวันนี้ถ้าคุณต้องการความประหยัดคงต้องมองเครื่องยนต์ดีเซล และเจ้ารถยนต์อีโค่คาร์ปัจจุบันก็เป็นรถยนต์กลุ่มเดียวที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล สามารถจับจองได้ในราคาไม่ทะลุล้านบาท  เป็นกลุ่มที่มีเครื่องยนต์ดีเซลถูกที่สุดแล้ว ถ้าไม่นับกระบะตอนเดียวทั้งหลาย

 

4.ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ

เมื่อใช้รถยนต์ไประยะยาว สิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึงอย่างแรง คือการดูแลรักษารถยนต์ในระยะยาว โดยเฉพาะระยะ 1 แสนกิโลเมตรแรก ที่แทยจะกลายเป็นการบังคับเข้าศูนย์บริการในสมัยนี้

สำหรับรถยนต์อีโค่คาร์ คุณมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำเนื่องจาก อีโค่คาร์เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ผลิตออกมาด้วยการวางพื้นฐาน  ให้ใช้งานง่ายดูแลง่าย ยกตัวอย่างรถที่บ้านผมเอง   Suzuki  Ciaz   เพิ่งจะทะลุ 1 แสนกิดลเมตรไปหมาดๆ ตลอดที่แม่ผมใช้และดูแลรักษาผ่านศูนย์บริการของ  Suzuki มีค่าดูแลไม่ถึง 3 หมื่นบาท นับว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับระยะทางใช้งานของรถ

อีโค่คาร์

5.หาที่จอดง่าย

ข้อดีของการใช้งานรถยนต์ขนาดเล็ก ก็คือความคล่องตัวในการขับขี่ โดยเฉพาะถ้าคุณขับในเมือง รถยนต์อีโค่คาร์เป็นรถที่ตอบโจทย์มาก มันอาจไม่หรูนัก แต่หาที่จอดรถง่ายชะมัด ช่องแคบ ที่ไม่กว้างมาก ถ้ามีทักษะการขับรถสักหน่อย แทบจะจอดได้หมดทุกที่ไร้ปัญหากวนใจ

 

6.ค่าประกันภัยถูก

รถมีมูลค่าน้อยลง ก็ยิ่งมีผลต่อการประกันภัยรถด้วย การทำประกันภัยกลายเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ และรถอีโค่คาร์ เสียค่าประกันภัยภาคสมัครใจประเภท ประกันภัยชั้น 1 ถูกมากๆ เมื่อเทียบกับรถแบบอื่นๆ ในตลาด และถึงแม้คุณจะขับรถที่ดูไม่หรูหราอะไร หากเรื่องการปกป้องกลับดีกว่ารถมูลค่าสูงที่ไม่มีประกันภัยชั้น 1

 

7.ประหยัดน้ำมัน

เป็นเรื่องที่ไม่สามารถปฏิเสธเลยกับรถยนต์อีโค่คาร์ พวกมันประหยัดน้ำมันที่สุดในเวลานี้ ด้วยมาตรฐาน 20ก.ม./ลิตร ขับจริงเหลือ 16-17 ก.ม./ลิตร แล้วแต่บาทาคนขับ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ในรถเครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยกัน ถ้าอยากจะประหยัดกว่านี้ คงต้องแนะนำว่าเดินหรือไม่ไปรถมอเตอร์ไซค์เถอะครับ  น่าจะดีกว่า

อีโค่คาร์

8.ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยเหนือชั้น

หลายคนไม่ทราบมาก่อน แต่เราอยากบอกเหลือเกินว่า “รถอีโค่คาร์” ทั้งหลายเหนือชั้นทางด้านความปลอดภัย ด้วยการบัญญัติจากภาครัฐบาลให้ รถอีโค่คาร์ต้องผ่านมาตรฐานการชนทางด้านหน้าและทางด้านข้าง  ตามมาตรฐานระดับสากล

รวมถึงยังมีการบังคับติดตั้งระบบช่วยขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมการทรงตัวและ ABS  เป็นมาตรฐานอีกด้วย

อีโค่คาร์

9.ช่วยโลกโดยทางอ้อม

อากาศเปลี่ยนแปลงในวันนี้เป็นผลมาจากการทำลายสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ ปัจจุบันทางหนึ่งที่บริษัทรถยนต์พยายามอย่างยิ่ง คือการลดการปล่อยก๊าซ   Co2  ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ทั้งในขั้นตอนการผลิตและสร้างรถที่มลภาวะน้อยลง

รถอีโค่คาร์ถือว่าเป็นรถที่ปล่อยไอเสียต่ำมาก เนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดเล็กของมัน และขนาดรถที่ไม่ใหญ่ ทำให้สร้างง่าย ขับง่าย และทำลายโลกน้อยลง รวมถึงเมื่อถึงเวลาสิ้นสุดอายุการใช้งาน ก็เปลืองพลังงานน้อยลงด้วย

ปัจจุบันรถยนต์อีโค่คาร์กำหนดให้ปล่อยไอเสียราวๆ 120 กรัม/กิโลเมตร และปัจจุบันรถยนต์อีโค่คารืที่ปล่อยไอเสียต่ำที่สุดคือ   Mitsubishi  Mirage   เพียง 98 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น จากข้อมูลของ   Eco Sticker

 

เป็นอย่างไรบ้างครับกับเจ้ารถอีโค่คาร์ชั้นนำทั้งหลาย คุณคงเห็นแล้วว่าพวกมันมีดีมากกว่าที่เราคิดว่าเป็นเพียงรถพื้นฐานขนาดเล็ก บางทีถ้าคุณลองตามรอยพ่อหลวงด้วยเศรษฐกิจพอเพียงหันมาใช้อีโค่คาร์ตอบโจทย์ในการเดินทาง คุณอาจจะมีเงินมากพอไปสร้างอนาคต ทำอย่างอื่นที่ต้องการก็ได้นะครับ

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่