หลังปล่อยให้คาดเดารูปแบบตัวถังกันอยู่นานเกือบปี ในที่สุด 2028 Lamborghini Lanzador ว่าที่ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% คันแรกแบรนด์กระทิงดุ ก็ได้ถูกเผยโฉมออกมาสักที ด้วยรูปทรงที่ไม่มีใครคาดเดามาก่อน นั่นคือตัวถังแบบ “ครอสโอเวอร์ 2 ประตู”

“2028 Lamborghini Lanzador” เพียงเท่านี้ก็รับทราบได้ทันทีว่า กว่าที่มันจะพร้อมถูกวางจำหน่ายจริง คือในอีกราวๆ 4 ปีกว่าๆข้างหน้า แต่เพื่อเป็นการยั่วใจลูกค้า และบอกเหล่าสาวกว่า ทางแบรนด์กระทิงดุเองก็เอาจริงในเรื่องการทำรถยนต์ไฟฟ้าแล้วเช่นกัน จึงทำให้พวกเขาเลือกที่จะเผยโฉมมันออกมาก่อน ในงาน MONTEREY CAR WEEK เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในฐานะรถต้นแบบระดับ Concept Car

และเพื่อเป็นการขยายความรูปทรงตัวรถ รวมถึงเพื่อไม่ให้สาวกเข้าใจว่าสิ่งที่ผู้บริหารเคยเกริ่นก่อนหน้านี้เป็นการให้ข่าวลวง ทาง Lamborghini ก็ระบุว่า เจ้ารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ คือรถรูปทรง GT หรือ Grand Tourer พร้อมประตู 2 บาน (รวมฝาท้ายเป็น 3 ประตู) และที่นั่งภายในห้องโดยสารแบบ 2+2 อย่างที่พวกเขาเคยให้ข้อมูลไว้จริงๆ เพียงแต่มันมาพร้อมกับการถูกยกสูงขึ้นไปจนกลายเป็นรถ “High Ground-Clearance GT” แทน

และแม้งานออกแบบตัวรถภายนอก ตอนแรกเห็นหลายคนอาจมองว่ามันเหมือนกับ Urus ที่ถูกปรับแนวหลังคาและสัดส่วนใหม่ให้ตัวรถดูมีแบนกว่าเดิม แต่อันที่จริงทาง Lamborghini ระบุว่ามันยังได้รับการผสมผสานเอางานดีไซน์ของพี่ๆรุ่นอื่นทั้ง Sesto Elemento, Murcielago, Countach LPI 800-4 เข้าไปในหลายๆจุดเช่นกัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง Huracan ยกสูง รุ่นใหม่ล่าสุด หรือ Huracan Sterrato ก็ด้วย

ภายในห้องโดยสารเอง ก็ยังคงอลังการราวกับเป็นยานอวกาศในภาพยนต์ Sci-Fi เช่นเดิม ทั้งจากการออกแบบคอนโซลหน้าที่มีความเป็นโดมและตัดแบ่งสัดส่วนชัดเจนระหว่างฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารด้านข้าง โดยที่ปุ่มกดตรงกลางเอง ก็ยังดูล้ำสมัยไปไกล และไม่ลืมที่จะใส่ฝาปิดแบบเครื่องบินรบมาให้

ส่วนชุดหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ก็เป็นอีกครั้งที่ไม่ได้มีมาให้ตรงกลาง แต่จะเป็นการฝังฟังก์ชันเอาไว้ที่หน้าจอมาตรวัดตรงหน้าผู้ขับ และจอตรงหน้าผู้โดยสาร คล้ายกับ Lamborghini Revuelto ที่พึ่งเปิดตัวไป เช่นเดียวกับพวงมาลัย ที่ให้มีลูกเล่นหมุดสวิทช์ปรับระบบต่างๆของระบบต่างๆภายในตัวรถ ซึ่งยกแรงบันดาลใจมาจากตัวแข่ง GT

แน่นอน แม้ตัวรถจะมีแค่ 3 ประตู แต่ด้วยความเป็นรถแบบ 2+2 ที่นั่ง เราจึงไม่พูดถึงเบาะนั่งตอนหลังไม่ได้ และจุดที่น่าสนใจก็คือ มันไม่ได้ใช้เบาะนั่งแบบตอนยาวไปตามแนวขวางของตัวรถ เหมือนรถยนต์ 4-5 ที่นั่งทั่วๆไป แต่เป็นการใช้เบาะแบบแยกพนักและหลุมเบาะ แบบ 1:1 จริงๆ แถมพนักหลังยังเป็นแบบเดียวกับเบาะนั่งคู่หน้าอีก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะนั่นก็เพราะให้ผู้โดยสารตอนหลังสามารถนั่งบนเบาะได้อย่างกระชับ ไม่ปลิวไปมาเวลาผู้ขับสาดรถหนักๆนั่นเอง

และถึงแม้ตัวเบาะคู่หลังจะเป็นแบบหลังกึ่งแข็ง แต่มันก็ยังสามารถพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บของสัมภาระทางด้านหลัง ซึ่งแม้ทางค่ายจะยังไม่มีการเปิดเผยขนาดพื้นที่ในการจุสัมภาระ แต่หากเท่านั้นยังไม่พอ รถคันนี้ก็ยังมีช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้ามาให้อยู่เช่นกัน ตามฉบับเดียวกับรถซุปเปอร์คาร์ทั้งหลายพึงมี

นอกจากนี้ ด้วยความที่มันเป็นรถรักษ์โลก (ตามสไตล์การทำรถยนต์ไฟฟ้า) วัสดุที่ใช้ในการทำชิ้นส่วนตกแต่งภายในห้องโดยสารหลายจุด จึงทำขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล ไม่ก็วัสดุธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น วัสดุผ้าในลอนหุ้มเบาะต่างๆ ที่ทำขึ้นจากพลาสติกรีไซเคิล เช่นเดียวกับวัสดุงานคาร์บอนต่างๆเองก็ด้วย, ตัวโฟมบุนุ่มที่ตัวเบาะก็เป็นงาน 3D-Print เพื่อความกระชับที่สุดของผู้นั่ง, และน้ำย้อมสีผ้าหุ้มเบาะก็มาจากน้ำมันมะกอกอีกต่างหาก

น่าเสียดายที่การเผยโฉมในครั้งนี้ ทาง Lamborghini ไม่ได้มีการเปิดเผยเลยสักนิดว่า เจ้า Lanzador จะมาพร้อมกับขุมกำลังที่ให้แรงม้า แรงบิดสูงสุดเท่าไหร่ และมีแบตเตอรี่ที่ทำให้มันสามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหนต่อชาร์จ

นั่งจึงทำให้เรายังไม่สามารถระบุสมรรถนะของตัวรถได้เลย นอกไปจากการรู้รายละเอียดเพียงคร่าวๆว่า มันจะได้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับแยกกันขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้าและคู่หลัง พร้อมการควบคุมด้วยระบบ Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI)

และเนื่องจากกำหนดการวางขายจริง คือภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งค่อนข้างไกลพอสมควร ทำให้เราเองก็ยังหวั่นใจว่าด้วยการทิ้งช่วงที่นานเช่นนี้ ลูกค้าตัวจริงของมัน อาจจะหันหน้าหนีไปหาคู่แข่งก่อนก็เป็นได้ (เพราะคู่แข่งสำคัญอย่าง Ferrari เองก็มีแผนจะเปิดตัวซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าออกมาเช่นกัน และยังเป็นการเปิดตัวในปี 2025 อีกด้วย)

ข้อมูลจาก Lamborghini

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่