Mercedes-EQS ถูกเผยโฉมและวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2021 ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้ได้ถึงช่วงอายุ “ครึ่งทาง” ของตัวถังปัจจุบันเข้าไปแล้ว และถึงเวลาสักทีกับการปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ในปี 2025

2025 Mercedes-EQS มาพร้อมกับการปรับโฉมใหม่ที่ช่วยให้มันสมกับคำว่าเป็นรถยนต์ในระดับ S-Class มากขึ้น เริ่มจากการแต่งหน้าทางปากตัวรถใหม่ ด้วยแผ่นปิดกระจังหน้าซึ่งไม่ได้ใช้ลวดลายดวงดาวอีกต่อไป แต่เป็นการเล่นกราฟฟิกแถบแนวนอนให้เหมือนกระจังหน้าของ Mercedes-Benz S-Class และหากยังไม่พอ คราวนี้มันยังได้รับการติดตั้งแท่นตราสัญลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้บนฝากระโปรงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้รู้ได้ทันที่ว่าเห็นเมื่อไหร่นี่คือ “รถเบนซ์” แน่นอน เข้ามาอีก

เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากการอัพเดทหน้าตาภายนอก สิ่งที่ทาง Mercedes ให้ความสำคัญไม่แพ้กันในตัวรถรุ่นนี้ก็คือความสะดวกสบายของผู้บริหารที่จะนั่งอยู่บนเบาะโดยสารตอนหลัง ซึ่งในคราวนี้ตัวเบาะหลังได้ถูกเพิ่มความหนาโฟมมากขึ้นอีก 5 มิลลิเมตร และยังสามารถปรับเอนพนักหลังด้วยระบบไฟฟ้าระหว่าง 27 ถึง 36 องศาได้อีก รวมถึงหัวหมอนคราวนี้ยังมีการปรับลวดลายการตัดเย็บใหม่ พร้อมหุ้มด้วยหนังแนปป้าเพื่อความนุ่มสบายสูงสุด

หากที่ไล่เรียงไป ยังสบายไม่พออีก ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อแพ็คเกจเสริม “Executive Interior Package” ได้ ซึ่งในคราวนี้ มันจะเพิ่มในส่วนของลูกเล่นเบาะหน้าฝั่งผู้โดยสาร ที่สามารถเลื่อนและพับไปข้างหน้าได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาของผู้โดยสารด้านหลัง และตัวพนักหลัง ยังสามารถเอนได้มากขึ้นอีกเป็น 38 องศา ตัวเบาะหลังทั้งหมด ยังมีลูกเล่นระบบอุ่นตัวแบบเร็วทั้งที่ตัวรองก้น, คอ, และหัวไหล่ เสริมด้วยลูกเล่นระบบปรับตำแหน่งแบบนิวเมติกอีกทบ

ในส่วนการปรับปรุงด้านรายละเอียดทางเทคนิค ทาง Mercedes ไม่ได้ระบุว่าขุมกำลังของ EQS รุ่นใหม่นั้น จะได้รับการปรับจูนใหม่ให้มีกำลังมากขึ้นจากเดิมหรือไม่ แต่ไประบุในเรื่องของขนาดแบตเตอรี่ ว่าตอนนี้ได้ถูกปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้น จาก 108.4 kWh เป็น 118 kWh และยังมีการปรับปรุงซอฟท์แวร์ในส่วนของระบบ Regenerating ตอนเบรก ใหม่ เพื่อให้มันสามารถดึงไฟกลับจากแรงเฉื่อยของตัวรถในจังหวะเบรก หรือผ่อนคันเร่งได้มากขึ้น

จากการปรับปรุงในข้างต้น ทำให้แม้ทางค่ายจะยังไม่มีการเผยตัวเลขระยะทางในการวิ่งสูงสุดต่อชาร์จออกมา แต่พวกเขาก็ระบุว่า มันจะช่วยทำให้ระยะทางในการใช้งานสูงสุดต่อชาร์จเพิ่มขึ้นอีก 82 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP โดยที่ยังไม่ได้บอกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นย่อยใดของตัวรถโฉมปีก่อนหน้า และท้ายสุดคือการระบุว่าตัวรถรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD จะสามารถรองรับน้ำหนักในการลากจูงได้มากขึ้นอีกเท่าตัว จากราว 750 กิโลกรัม เป็น 1,700 กิโลกรัม

นอกนั้นในส่วนของออพชันเสริมเพิ่มเติม หากเป็นตัวรถที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรป ทาง Mercedes ก็ระบุว่าลูกค้าสามารถเลือกซื้อฟังก์ชันระบบเปลี่ยนช่องทางการจราจรอัตโนมัติ หรือ Automatic Lane Change ได้ เช่นเดียวกับชุดล้อ AMG ขนาด 21 นิ้วลายใหม่, ออพชันเบาะหุ้มหนังแนปป้าสีทู-โทน, ฝ้าหลังคาไมโครไฟเบอร์, ทริมตกแต่งสีโรสโกลด์ หรือ ลายไม้สีดำ แล้วแต่ความชอบของลูกค้า

โดยตัวรถ Mercedes-EQS 2025 ถูกระบุว่าจะพร้อมวางจำหน่ายจริงภายในช่วงไม่เกินสิ้นปีนี้ ในยุโรปและอเมริกา ส่วนในประเทศไทย ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมใดๆ แต่คาดว่ากำหนดการเปิดตัวอย่างช้าสุด จะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินกลางปีหน้า

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่