อาจจะจริงอยู่ว่า Subaru ได้มีการเปิดตัว Forester เจเนอเรชันใหม่ หรือร่างใหม่แบบ All-New ไปแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในประเทศบ้านเกิดของแบรนด์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทางค่ายตัดสินใจยื้อชีวิตตัวรถร่างที่ 5 ต่อไป พร้อมทางเลือกออพชันใหม่ในปี 2024 นี้แทน

ดังที่เราเกริ่นไว้ในข้างต้น 2024 Subaru Forester ที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น ยังคงเป็นตัวรถโฉมเดียวกันกับร่างไมเนอเชนจ์ (เปิดตัวครั้งแรกปี 2021) ของตัวรถเจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2018

และความสดใหม่ของตัวรถโมเดลล่าสุดที่ว่านี้ ก็คือการเพิ่มทางเลือกงานตกแต่งภายในแบบ STI Sport Black เข้ามาโดยมีจุดเด่นสำคัญคือการตกแต่งภายในห้องโดยสารที่เน้นความดิบดุดัน และใช้โทนตกแต่งสีดำแทบทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้า เบาะนั่ง หรือแม้กระทั่งชิ้นพลาสติกครอบเสาหลังคา และฝ้าหลังคาก็ยังเป็นสีดำ

ส่วนตะเข็บด้ายตามชิ้นงานหุ้มหนังต่างๆจะใช้ตะเข็บได้สีเงิน และเพื่อความสวยงามแบบเคร่งขรึม จึงมีการตกแต่งคอนโซลหน้าและแผงประตูด้วยวัสดุพลาสติกผิว Piano Black เข้าไปเพิ่ม

ด้านความเปลี่ยนแปลงภายนอก ยังคงไม่ได้มีความแตกต่างไปจากเดิมใดๆ นอกไปเสียจากทางเลือกเฉดสี Offshore Blue Metallic เฉพาะรุ่น พร้อมแปะโลโก้ STi Sport แบบใหม่เข้าไป

ขณะที่ขุมกำลังยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน บ็อกเซอร์ 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 PS เท่าเดิม แต่ด้วยความเป็นรุ่น STi มันจึงได้รับการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่ ในส่วนของตัวโช้กที่มีความหนืดมากขึ้น เพื่อการควบคุมตัวรถที่มั่นคงกว่าเดิมในการขับด้วยความเร็วสูง

นอกจากนี้ ทาง Subaru ยังได้มีการเพิ่มสีตัวถัง Geyser Blue ให้กับตัวรถรุ่น X-Edition และ XT-Edition ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่เฉดสีใหม่ แต่เป็นเฉดสีที่พวกเขาเคยใช้ใน Subaru Forester Wilderness ซึ่งเคยขายในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนหน้านี้ และยังเป็นสีดั้งเดิมของตัวรถ XT-Edition ที่วางขายในญี่ปุ่นเมื่อปี 2022 (แต่หายไปในปี 2023)

และด้วยความเป็นรุ่นย่อย ซึ่งออกแบบมารองรับลูกค้าที่ต้องการใช้รถไว้ลุย มันจึงมาพร้อมกับวัสดุหนังกันน้ำ ตามจุดต่างๆภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่ง แผงข้างประตู และพวงมาลัย ตามด้วยแผ่นรองพื้นที่เก็บของสัมภาระทางด้านหลังที่มีความทนทานเป็นพิเศษ และแน่นอนว่าการตกแต่งภายใน ก็จะเปลี่ยนไปเป็นโทนสีดำทั้งหมด คล้ายๆกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่เรานำเสนอข้อมูลไป

สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างตัวรถทั้ง X-Edition และ XT-Edition ก็คือตัวแรก จะใช้เครื่องยนต์ไฮบริด e-Boxer ขนาด 2.0 ลิตร ที่เน้นความประหยัด และในฝั่งรุ่นหลัง จะยังคงใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ ที่เน้นพละกำลังมากกว่า โดยทั้งหมดจะยังคงทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive ดังเดิม

โดยตอนนี้ รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2024 จะวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ด้วยราคาเริ่มต้น ที่ 3,069,000 เยน หรือราวๆ 731,000 บาท ส่วนรุ่นพิเศษอย่าง X-Edition จะสนนราคาที่ 3,377,000 เยน หรือราวๆ 805,000 บาท ตามด้วยรุ่น XT-Edition ราคา 3,432,000 เยน หรือราวๆ 818,200 บาท และท้ายสุด คือรุ่น STi Sport พร้อมภายในสีดำ กับราคา 3,850,000 เยน หรือราวๆ 917,500 บาท

ทั้งนี้ นี่อาจเป็นปีสุดท้ายแล้วที่ทาง Subaru จะยังคงวางจำหน่ายตัวรถ Forester เจเนอเรชันที่ 5 ในประเทศบ้านเกิด ก่อนที่จะวางขายตัวรถเจเนอเรชันที่ 6 ภายในปี 2025 ตามประเทศสหรัฐอเมริกา และนั่นก็หมายความว่าประเทศไทยเอง ก็อาจจะมีการปรับแผนตามด้วยในไม่ช้า และคาดว่าอย่างเร็วสุดก็คือภายในช่วงปลายปีหน้านั่นเอง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่