หลังจากที่ Nissan ทยอยเปิดตัวรถต้นแบบพลังไฟฟ้าไปแล้วถึงสองรุ่นทั้ง Nissan Hyper Adventure Concept และ Nissan Hyper Urban ล่าสุดกับ Nissan Hyper Tourer

Nissan Hyper Tourer รถไฟฟ้าต้นแบบรุ่นที่สามจากตระกูล Hyper Series มาในร่างรถมินิแวนขนาดเล็กรูปลักษณ์ภายนอกสื่อถึงความรู้สึกสบายที่มาจากภายใน ด้วยแผงตัวถังที่เรียบลื่น มีเส้นสายที่เฉียบคมแสดงถึงความงามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เข้ากันได้ดีกับรูปลักษณ์ที่ดูโอ่อ่ากลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ ด้านข้างตัวรถมาพร้อมกับเส้นแนวทแยงจากด้านหน้าไปยังบังโคลนหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ และความรู้สึกของการขับขี่ที่นุ่มนวลซึ่งเป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เส้นกลางตัวถังสีขาวรอบคันทำหน้าที่เป็นไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์รุ่นนี้ ขณะที่ล้อลายคุมิโกะ และลายเส้นที่นุ่มนวลและเป็นแนวตรงบนตัวถัง เสริมความรู้สึกที่พรีเมียมเหนือระดับ

ห้องโดยสารภายในกว้างขวางเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของนิสสันซึ่งรวบรวมชิ้นส่วนขนาดเล็ก และแบตเตอรี่แบบ Solid-state ไว้อย่างกะทัดรัดเพื่อให้เกิดนวัตกรรมยานยนต์ที่มีความสร้างสรรค์ ผลที่ได้คือจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเป็นพิเศษ คอนโซลเหนือศีรษะ และไฟส่องสว่างมีลวดลายคูมิโกะ และโคอุชิแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สร้างความรู้สึกหรูหรา ในขณะที่แผงไฟ LED ทรงแบนบนพื้นแสดงภาพคล้ายแม่น้ำและท้องฟ้า ช่วยสร้างความผ่อนคลายที่ผสมผสานสไตล์ที่มีความเป็นดิจิทัลและธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เวลากับเพื่อนร่วมทางได้อย่างเต็มที่ เบาะหน้าสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลังสามารถหันมาพูดคุยกันได้อย่างสะดวก ผู้โดยสารตอนหลังสามารถใช้จอแสดงผลแบบสวมใส่ (wearable display) เพื่อดูและใช้งานระบบนำทางและควบคุมเครื่องเสียงบนจอแสดงผลตรงกลางเบาะหน้า ช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกสะดวกสบาย และมีส่วนร่วมในการเดินทาง นอกจากนี้ ระบบ AI สามารถตรวจจับข้อมูลแบบไบโอเมตริค biometrics อาทิ คลื่นสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และเหงื่อ พร้อมเลือกเพลงอัตโนมัติและปรับแสงสว่างในห้องโดยสารให้เหมาะกับอารมณ์ในช่วงนั้นและเมื่อทำงานร่วมกับระบบควบคุมการขับขี่ e-4ORCE จากนิสสันจะช่วยควบคุมล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำทั้งตอนเร่ง และชะลอความเร็ว

Nissan Hyper Tourer มาพร้อมแนวคิดการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมเดินทาง ด้วยการวางเป้าหมายสำหรับ กลุ่มผู้ใช้งานที่แสวงหาประสบการณ์ที่เหนือกว่า และสนุกกับการใช้เวลากับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานผสมผสานวิญญาณของการให้บริการแบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า omotenashi เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ รวมถึงฟังก์ชัน V2X หรือ (vehicle-to-everything) และแบตเตอรี่ความจุสูงยังช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้าน ร้านค้า และสำนักงาน ขณะเดินทาง หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ จะมีการจัดแสดงรถคันจริงในงาน Japan Mobility Show ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่