หลังการประกาศชื่อเตรียมวางจำหน่ายเพียงไม่นาน ล่าสุด KIA EV9 ก็ได้พร้อมเปิดให้ชาวไทยได้สัมผัสและจับจองกันแล้วด้วย ราคา เริ่มต้นที่ 3,499,000 บาท

KIA EV9 ถือเป็นรถยนต์แนวอเนกประสงค์ หรือ SUV ที่ทางค่ายให้การยืนยันว่ามันคือ ตัวรถระดับเรือธงของแบรนด์ ทั้งจากขนาดตัวที่ใหญ่โต จากขนาดตัวในด้านกว้าง 1,980 มิลลิเมตร, ด้านยาว 5,015 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,750 – 1,780 มิลลิเมตร กับระยะฐานล้อ 3,100 มิลลิเมตร และระยะความสูงใต้ท้องรถ 178 – 198 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่โตกว่ารถยนต์ในกลุ่ม PPV ในบ้านเราขึ้นมาอีกระดับ รวมถึงน้ำหนักตัวเอง ยังมากถึง 2,909 – 3,220 กิโลกรัม สมชื่อคลาส “Large SUV”

และด้วยการออกแบบทรงกล่องบึกบึน แต่ยังคงดูล้ำสมัยด้วยไฟหน้า LED ทรงตั้งประกบกระจังหน้าดีไซน์หน้าเสือ หรือ digital tiger face ทรงปิดทึบรับกับคิ้วขอบกระจังหน้าสีเงินโครเมียม กันชนหน้าดีไซน์เล่นระดับซุ้มล้อสีดำดีไซน์เหลี่ยมดูทะมัดทะแมง

ลงตัวด้วยล้อทูโทนทรงเอ็กซ์ คิ้วชายล่างประตูสีดำใส่คิ้วสีเงิน ที่เปิดประตูเรียบเนียน กระจกมองข้างทรงสปูนกับราวหลังคาเนียนเรียบกับหลังคารถ เสา C ขนาดใหญ่ทาด้วยสีเดียวกับตัวรถไฟท้าย LED แนวยาวเรียวทรงเลขาม กับกันชนหลังที่ลงตัว สปอยเลอร์บนกระจกหลังดีไซน์ดุดัน เสาอากาศครีบฉลาม ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในให้ความสบายแบบ 6 หรือ 7 ที่นั่ง 3 ตอน เด่นด้วยเบาะนั่งตอน 2 ที่สามารถหมุนได้ถึง 180 องศา เพื่อให้ผู้นั่งสามารถสนทนากับผู้โดยสารตอนที่ 3 ได้อย่างสบายๆ แต่น่าเสียดายตรงที่ลูกเล่นนี้ จะมีให้เฉพาะตัวรถรุ่นรอง Earth Long Range เท่านั้น

ส่วนตัวรถรุ่นบน GT-Line AWD เบาะนั่งแถว 2 ของมัน จะถูกเปลี่ยนเป็นเบาะนั่งแบบ First Class แทน ซึ่งแม้ว่ามันจะไม่สามารถหมุนตำแหน่งตนเองได้ แต่ก็มาพร้อมกับลูกเล่นระบบนวด ระบบเป่าลม และแผ่นรองน่องปรับไฟฟ้าแทน เพื่อความสะดวกสบายของผู้นั่งขั้นสุด

คอนโซลหน้าดีไซน์แนวนนอนพร้อมจอคู่ขนาดใหญ่แบบลอยตัวที่มีทั้งมาตรวัดดิจิทัล และจอสัมผัสขนาดจอละ 12.3 นิ้ว และยังมีจอคั่นกลางขนาด 5 นิ้ว สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศตอนหน้า พร้อมปุ่มการใช้งานที่ง่ายๆและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ดีไซน์ล้ำอนาคต ส่วนระบบปรับอากาศของผู้โดยสารตอนหลังเอง ก็มีมาให้เช่นกัน โดยสวิทต์ปรับจะอยู่ทางด้านบน ตรงคานกลาง คั่นระหว่างกระจกซันรูฟ และมูนรูฟ ตรงหลังคารถ

ส่วนระบบความปลอดภัยที่ให้มา ก็มีทั้ง ระบบ Smart Cruise Control, Highway Driving Assist 2, Forward Collision-Avoidance Assist, Blind-Spot Collision Warning / Avoidance Assist, Forward Collision Warning, Lane Departure Warning, Lane Keeping Assist, Lane Following Assist

หากเท่านั้นยังไม่พอ ยังมีระบบ High Beam Assist, Rear Cross-Traffic Collision Warning / Avoidance Assist, Parking Distance Warning, Rear Occupant Alert, และ Safe Exit Assist มาให้อีก เรียกได้ว่าครบครันในแบบที่รถยนต์ไฟฟ้ายุคปัจจุบันควรจะเป็น

ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ ที่ทาง KIA ออกแบบขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังอิสระ 5-Link พร้อมเหล็กกันโคลง

และสำหรับตัวรถที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีตัวเลือกให้ลูกค้าได้พิจารณาตามความชอบ 2 แบบด้วยกัน ซึ่งแม้ทั้งสองรุ่น จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 99.8 kWh เหมือนกัน แต่ด้วยรูปแบบขุมกำลังที่ต่างกัน มันจึงมีผลในเรื่องของระยะทางการใช้งาน และสมรรถนะตัวรถอยู่เล็กน้อย นั่นคือ

  • Kia EV9 Earth Long Range ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 149.5 กิโลวัตต์ (203.2 PS) / 350 นิวตันเมตร ทําให้ตัวรถสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 9.4 วินาที พร้อมเคลมความเร็วสูงสุด ที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลสุด 680 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC
  • Kia EV9 GT-Line AWD มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กําลังรวม 282.6 กิโลวัตต์ (384.2 PS) และแรงบิดรวม 700 นิวตันเมตร ทําให้ตัวรถสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.3 วินาที พร้อมเคลมความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลสุด 647 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC

ส่วนความสามารถในการชาร์จแบบรวดเร็วพิเศษ (Ultra-fast Charge) จะรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุดที่ 350 กิโลวัตต์ ทำให้มันสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางมากถึง 450 กิโลเมตร ภายในระยะเวลาการชาร์จเพียวราวๆ 24 นาที เท่านั้น

โดย Kia EV9 ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่

  • Kia EV9 Earth Long Range ราคา 3,499,000 บาท
  • Kia EV9 GT-Line AWD ราคา 3,899,000 บาท

โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพยาวนาน 7 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 7 ปี รวมถึงฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี

และสําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Kia EV9 GT-Line AWD ในเดือนมีนาคม บริษัทฯ จะเริ่มทำการส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2567 

และสําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Kia EV9 Earth Long Range บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะส่งมอบรถยนต์ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป

โปรโมชันสำหรับลูกค้า Kia EV9 ทั้ง 2 รุ่น:

  • ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ (ต้นงวด) 1.79% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ระยะเวลา 2 ปี
  • ฟรี อุปกรณ์ Kia Home Charger 1 ชุด และฟรี ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า
  • ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: