Honda City ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ผู้ใช้รถหน้าใหม่หลายคนให้ความสนใจ และในวันนี้ ทางค่ายก็ได้มีการเปิดตัวรุ่นย่อย “S” ตัวใหม่ ซึ่งทำให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถจับต้องมันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

Honda City S อาจไม่ใช่รุ่นย่อยใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ Honda City เจเนอเรชันปัจจุบัน ร่างก่อนไมเนอร์เชนจ์ก็ยังคงมีรุ่นย่อยนี้วางจำหน่ายไปพร้อมๆกันมาตั้งแต่แรก จนกระทั่งถึงเวลาของการปรับโฉมเล็กเมื่อกลางปีก่อน ที่รุ่นย่อยนี้กลับไม่ได้มีการเปิดตัวออกมาทำตลาดร่วมกับเพื่อนๆด้วย

จนกระทั่งล่าสุด ตอนนี้มันได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับจุดขายแบบดั้งเดิมคือการเป็นรถยนต์ซับคอมแพ็คซีดาน ที่ผู้ใช้รถหน้าใหม่สามารถจับต้องได้ง่าย ด้วยการใส่มาเพียงแต่ออพชันที่จำเป็นต่อการใช้งานจริงๆเท่านั้นจึงทำให้มันมีราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ 599,000 บาท

โดยหากเทียบกับตัวรถรุ่น V ที่ก่อนหน้านี้เป็นรุ่นร่างสุดของ City โมเดลปี 2023 เป็นต้นมา และในตอนนี้ มันกลายเป็นรุ่นที่สูงกว่าตัว S ขึ้นมาอีกขั้น ด้วยส่วนต่างราคาที่ราวๆ 30,000 บาท

ออพชันที่ถูกตัดทอนออกไป ก็จะเริ่มจาก

  • การเปลี่ยนชุดล้อ จากล้ออัลลอยด์ เป็นล้อกระทะเหล็ก แต่ยังคงรัดด้วยยางขนาด 185/60 R15 ตามเดิม
  • กระจกมองข้าง ไม่มีระบบพับไฟฟ้า และไฟเลี้ยวในตัว
  • ระบบกุญแจรถ เปลี่ยนจากแบบ Keyless เป็นกุญแจรีโมทพร้อมระบบ Immobilizer ปกติ ทำให้ตัวรถจะไม่มีฟังก์ชั่น ระบบ Auto Unlock, Walk Away Auto Lock, และ Remote Engine Start
  • ระบบแอร์เป็นแอร์แมนวล ไม่ใช่แอร์ Auto
  • มือเปิดประตูด้านในไม่ใช่มือเปิดโครเมียม
  • ไม่มีช่องเก็บของ และที่วางแขนกลางเบาะคู่หน้า

ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งหมดคือความแตกต่างที่เคยเกิดขึ้นใน Honda City S โฉมก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

แต่เมื่อเทียบกันแบบตรงๆอีกครั้ง ตัวรถรหัส S รุ่นใหม่ปี 2024 ที่แพงกว่าโฉมก่อนอยู่ 20,000 บาท จะได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda Sensing มาให้ตั้งแต่ออกโรงงาน และจะใส่มาให้ครบทุกฟังก์ชันเหมือนกับรุ่น RS ทั้ง CMBS, LKAS, RDM with LDW, AHB, ACC, และ LCDN ขาดแค่เพียงระบบ LSF เท่านั้น ที่ยังคงไม่มีมาให้ เพราะจะถูกสงวนไว้เฉพาะรุ่นขุมกำลัง e:HEV

นอกนั้นในส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถ ก็ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ตั้งแต่การใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเรียง 12 วาล์ว VTEC TURBO ขนาด 1,000cc ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า PS ที่ 5,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT ไปยังชุดล้อคู่หน้า

ระบบช่วงล่างก็ยังคงเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ทางด้านหน้า และ ทอร์ชันบีมทางด้านหลัง ทำงานร่วมกับระบบดิสก์เบรกด้านหน้า และดรัมเบรกด้านหลังดังเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากชุดล้อที่เราได้ระบุไปแล้วก่อนหน้านี้

แม้กระทั่งลูกเล่นอื่นๆอย่าง ชุดไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์, ชุดเครื่องเสียงวิทยุ AM/FM พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธ, เบาะนั่งหุ้มผ้า ปรับมือ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน, ระบบ Idle Stop พร้อมสวิตซ์เปิด-ปิด, ระบบ Push Start, และอื่นๆก็ยังคงมีมาให้เหมือนเดิมกับที่เคยมีในรุ่น S โฉมก่อนหน้า

โดย Honda City ใหม่ รุ่นย่อย S มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า พร้อมข้อเสนอพิเศษ*** ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ “ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ (Honda Exclusive Care)” หรือ ดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 3,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 42,000 บาท พร้อมรับ “ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ (Honda Exclusive Care)” หรือ ดาวน์ 0% พร้อมรับ “ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ (Honda Exclusive Care)” หรือ ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส** ดาวน์เพียง 10% หรือ เลือกผ่อนเบาๆ เพียงเดือนละ 3,464 บาท เมื่อจองตั้งแต่ 22 มีนาคม – 8 เมษายน 2567 และรับรถตั้งแต่ 22 มีนาคม – 30 เมษายน 2567

**ให้บริการสินเชื่อโดย บริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ ณ เวลาที่ยื่นขอสินเชื่อ และเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่บริษัทฯ กำหนด
***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: