หลังการเปิดตัวในงาน EICMA 2024 ไปเพียงไม่นาน ล่าสุด 2024 Honda CBR650R และ 2024 Honda CB650R ก็ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในไทย แถมยังพร้อมวางจำหน่ายเป็นที่แรกในโลกอีกด้วย

2024 Honda CBR650R มาพร้อมกับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในระดับ All-New โดยสำหรับตัวรถรุ่นใหม่นี้ มันก็ได้มาพร้อมกับหน้าตาภายนอกใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มันดูมีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิมและดูใกล้เคียงกับเหล่ารถมอเตอร์ไซค์ตระกูล CBR-RR มากยิ่งขึ้น

ไล่ตั้งแต่ ชุดไฟ LED โคมคู่ และแฟริ่งหน้าใหม่ที่ดูแหลมคมกว่าเดิม, แฟริ่งข้างใหม่ดุดันกว่าเดิม, และแฟริ่งท้ายกับไฟท้ายแบบใหม่ ที่ยื่นยาวออกไปจากแนวท้ายรถมากกว่าเดิม ช่วยให้ตัวรถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน ในฝั่ง 2024 Honda CB650R เอง ก็มาพร้อมกับชุดโคมไฟหน้า LED แบบใหม่ ซึ่งแม้จะยังคงเป็นแบบโคมเดี่ยวพร้อมรอบด้วยขอบวงแหวน LED แต่แท้จริงแล้วมันคือแบบที่ยกมาจากของพี่ใหญ่ Honda CB1000R ร่างก่อนปรับโฉมเป็น Hornet 1000 และในส่วนของชุดแฟริ่งกาบข้างเองก็ปรับใหม่ให้ดูป่องออกมาทางด้านข้างมากขึ้นอีกเล็กน้อย และช่วยในเรื่องของการขยายพื้นที่หน้าตัดของปากช่องแรมแอร์ไปในตัว

นอกนั้นในส่วนชุดแฟริ่งครึ่งหลังก็ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ทั้งในส่วนของถังน้ำมัน และเบาะนั่ง นอกไปเสียจากชุดแฟริ่งท้าย ที่ถูกปรับให้เรียวยาวกว่าเดิมรับกับไฟท้าย LED แบบใหม่ ซึ่งอันที่จริง ก็ใช้ร่วมกันกับคู่แฝด Honda CBR650R รุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกันนั่นเอง

นอกจากการปรับเปลี่ยนในเรื่องชุดแฟริ่งเปลือกนอก ตัวรถทั้ง 2 รุ่น ยังได้รับการปรับเปลี่ยนชุดหน้าจอมาตรวัดใหม่ เป็นแบบ ฟูลดิจิตอล TFT ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมกับสีสันสดไส แถมยังใช้หน้ากระจกลดแสงสะท้อนอย่างดี และรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือทั้ง iOS และ Android ได้ผ่านระบบ Honda RoadSync เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันการเล่นเพลง, การติดต่อสื่อสาร การรับสายโทรเข้า/โทรออก, การอ่านข้อความ, และการนำทางแบบ Turn By Turn ก็ด้วย

และเพื่อการควบคุมหน้าจอที่มีลูกเล่นยิบย่อยเยอะกว่าเดิม ทำให้ตัวประกับแฮนด์ด้านซ้ายของตัวรถ จะมาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบใหม่ นั่นคือปุ่มกดแบบ 4 ทิศทาง ซึ่งสามารถใช้ในการเล่นเพลง เพิ่มเสียง ลดเสียง หรือป้อนคำสั่งในส่วนของระบบนำทางได้เลย หากคุณมีบลูทูธติดหมวกกันน็อกไว้ใช้งานอยู่แล้ว

ด้านโครงสร้างตัวรถยังคงอิงมาจาก Honda 650-Series รุ่นก่อนหน้า นั่นคือโครงเหล็ก Diamond Frame ทำงานร่วมกับชุดสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่ แต่ในคราวนี้ทาง Honda ได้มีการปรับจูนชิ้นส่วนช่วงแกนคอใหม่ให้มีความแข็งมากกว่าเดิม และไปเพิ่มความยืดหยุ่นในช่วงเฟรมกลาง เพื่อให้ตัวรถสามารถส่งอาการจากพื้นมาสู่ผู้ขี่ได้แม่นยำกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ขี่ได้ดียิ่งขึ้น

ด้านระบบกันสะเทือนด้านหน้ายังคงเป็นแบบโช้กตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 41 มิลลิเมตร พร้อมไส้ในแบบ Separate Function Big Piston ส่วนด้านหลัง ก็ยังคงใช้ชุดโช้กอัพเดี่ยวปรับเซ็ทพรีโหลด (ความแข็ง-อ่อน) ได้ 10 ระดับ ซึ่งทาง Honda ไม่ได้ระบุว่ามีการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่หรือไม่ แต่คาดว่าจะมีการปรับปรุงเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับงานออกแบบชุดเฟรมที่เปลี่ยนไป

และในส่วนของชุดล้อ ก็ยังคงเป็นล้ออลูมิเนียมแบบเดิมกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมรัดด้วยยางขนาดเดิม คือ 120/70-17 กับ 180/55-17 ตามลำดับหน้า–หลัง โดยที่ระบบเบรกยังคงเป็นแบบเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 พอท ทำงานร่วมจานเบรกคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร ทางด้านหน้า และโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 พอท ทำงานร่วมจานเบรกเดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร ทางด้านหลัง พร้อมระบบ ABS แบบ Dual Channel ดังเดิม ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ

ขุมกำลังเครื่องยนต์ ยังคงเป็นบล็อค 4 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 649cc ที่ไม่ได้รับการจูนใดๆทั้งสิ้นจากตัวรถรุ่นก่อนหน้า ดังนั้นมันจึงยังคงให้กำลังสูงสุดที่ 95 PS ที่ 12,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอีก 63 นิวตันเมตร ที่ 9,500 รอบ/นาที ดังเดิม แต่มีการปรับองศาแคมชาฟท์ฝั่งไอดีใหม่ 2 องศา ให้เปิดได้นานขึ้น พร้องปรับจูนกล่อง ECU ใหม่ ช่วยให้ตัวรถมีแรบิดในรอบต่ำที่ติดมือกว่าเดิม

โดยที่ระบบ HSTC ก็ยังคงมีค่าเดียว ชุดระบบเกียร์ยังไม่มีการปรับอัตราทด และตัวระบบคลัทช์เองก็ยังคงไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนใดๆในเรื่องระบบสลิปเปอร์คลัทช์

โดย 2024 Honda CB650R มีราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ที่ 312,100 บาท พร้อม 3 สีใหม่ ได้แก่ ‘สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC’ ‘สีแดง CANDY CHROMOSPHERE RED’ และ ‘สีเทา PEARL SMOKY GRAY’

ขณะที่ 2024 Honda CBR650R มีราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ที่ 327,300 บาท พร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ ‘สีแดง GRAND PRIX RED’ และ ‘สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC’

ทั้งนี้ ราคาที่ระบุไว้ในข้างต้น ยังเป็นเพียงราคาของตัวรถรุ่น Standard เท่านั้น ไม่ใช่รุ่นที่มีระบบคลัทช์ไฟฟ้า หรือ E-Clutch แต่อย่างใด เนื่องจากกำหนดวางขายจริง ถูกระบุไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่