หลังการเผยโฉม All-New BMW i5 ในไทยไปเมื่อปลายปีก่อน ล่าสุดทาง BMW Group ประเทศไทย ก็ได้มีการเผยโฉมร่างขุมกำลังสันดาปภายในไฮบริดของเจ้านี่เพิ่ม ซึ่งเราหมายถึง All-New BMW Series 5 รุ่นใหม่ล่าสุดนั่นเอง

2024 BMW Series-5 มาพร้อมรหัสใหม่ G60 โดดเด่นด้วยการปรับโฉมในแทบทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานออกแบบภายนอก ที่คราวนี้ ในตัวรถเจเนอเรชันที่ 8 ก็ยิ่งถูกใส่ความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวให้กับตัวรถมากขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกับรุ่นพี่โฉมก่อนหน้าร่างไมเนอร์เชนจ์ ราวกับว่ามันคือ BMW Series-3 ที่มีตัวถังใหญ่กว่า และมีเส้นสายหรูหราขึ้นมากกว่ากันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ซึ่งเรียนตามตรงว่านี่ถือเป็นเรื่องดีอย่างมาก เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ใช้เส้นสายที่เน้นแต่ความขึงขังเหมือน BMW Series-7 รวมถึงไม่ต้องสืบทอดกระจังหน้าไตคู่ชิ้นเขื่อง และไฟหน้าแบบแยกส่วนบนล่าง จากรุ่นพี่ ซึ่งหลายคนค่อนขอดว่าดูเว่อร์วังจนเกินไปอีกด้วย

ด้านงานออกแบบภายในห้องโดยสาร ก็ยังถูกปรับเปลี่ยนรายละเอียดใหม่เกือบทั้งหมด เพราะแม้คอนโซลหน้า จะยังคงใช้เส้นสายแบบเหลี่ยม นูนตรงกลาง แต่มันก็มาพร้อมกับพวงมาลัยที่ถูกปรับรูปทรงใหม่ ให้เป็นแบบ D-Shape พร้อมงานออกแบบก้านทั้ง 3 ที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น

ชุดหน้าจอ Curve Display แบบกึ่งลอยตัว ซึ่งจะเชื่อมต่อกันระหว่างชุดจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 14.9 นิ้ว กับจอแสดงผลข้อมูลมาตรวัดของผู้ขับขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งมีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ คือระบบเกมคอนโซลที่ผู้โดยสารสามารถดาวน์โลหดเกมไว้เล่นในรถได้ แต่จะทำได้เฉพาะเมื่อรถจอดอยู่กับที่

ด้านแท่นคอนโซลกลาง ก็มีการถอดเอาคันเกียร์ดั้งเดิมทิ้งไป แล้วแทนด้วยสวิทช์โยกขนาดเล็ก ที่ทำให้ตัวรถดูสะอาดตามากกว่า ส่วนตัวลูกบิด iDrive ที่ยังคงมีมาให้

แต่แท้จริงแล้วก็เหมือนใส่มาเพื่อความภาคภูมิใจของทาง BMW เท่านั้น เพราะทางค่ายระบุว่า ด้วยการปรับปรุงระบบซอฟท์แวร์อินโฟเทนเมนท์ใหม่ เป็น iDrive 8.5 กับการอัพเดทระบบสังเกตท่าทางผู้ใช้ภายในห้องโดยสาร จึงทำให้ตัวลูกบิดนี้ แทบไม่จำเป็นต่อการใช้งานอีกต่อไปแล้วด้วยซ้ำ

สิ่งสุดท้ายภายในห้องโดยสาร ที่ต้องกล่าวถึงก็คือเบาะนั่งภายในห้องโดยสาร ที่ได้ถูกปรับแบบใหม่ ให้มันดูสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น และแน่นอนว่ามันก็ยังคงถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์จากพืชเพื่อลดการปลดปล่อยมลพิษ และเป็นการรักษ์โลกไปในตัว

ด้านขุมกำลังของตัวรถ BMW Series 5 รุ่นใหม่ปี 2024 ที่ประเดิมขายในไทย จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ ตามรุ่นย่อยที่มีให้เลือกตามความชอบของลูกค้า นั่นคือ

  • BMW 520d มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มอบกำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า
    ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,750 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ Steptronic 8 จังหวะ พร้อมทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 7.3 วินาที และสามารถเรียกความเร็วสูงสุดได้ 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • BMW 530e มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังรวมกันสูงสุด 220 กิโลวัตต์ / 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลา 6.3 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ทั้งยังสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 108 กิโลเมตร เมื่อขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ตามมาตรฐาน NEDC  และยังมีเทคโนโลยี eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 พกพาแบตเตอรี่ขนาด 22.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่รองรับการชาร์จแบบ AC 7.4 กิโลวัตต์ โดยส่งความเร็วสูงสุดเมื่อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  

นอกจากนี้ สำหรับตัวรถ Series 5 ทั้งสองรุ่นที่วางจำหน่ายในไทย ยังจะมาพร้อมกับแพ็คเกจออพชัน M Sport Pro ใส่มาให้ตั้งแต่ออกโรงงาน โดยความพิเศษหลักๆจะอยู่ที่ ชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งระบบไฟหน้า BMW Individual High-gloss Shadow Line, ชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line และช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู

ทั้งนี้ สำหรับตัวรถรุ่น 530e M Sport Pro ยังสร้างความโดดเด่นเพิ่มเติมด้วยหลังคากระจก Panorama และเพิ่มอรรถรสความบันเทิงด้วยชุดลำโพงจาก Bowers & Wilkins เสริมลุคด้วยการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสี Dark Silver M พร้อมวัสดุตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุสีเงิน ล้อสีเทาดำขนาด 20 นิ้ว สไตล์ M Aerodynamic และเบรกแบบ M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สี Dark Blue Metallic

ขณะเดียวกัน ทางฝั่ง 520d M Sport Pro ก็จะเสริมได้ชุดล้ออัลลอย M สีดำ Jet Black ขนาด 20 นิ้ว ลาย Star-spoke, เบรก M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงเงา, ระบบกันสะเทือน M Sport เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ เข้ากับรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวปราดเปรียว และใช้ลำโพง HIFI จาก Harman Kardon

โดย BMW Series 5 รุ่นใหม่ ปี 2024 มีการประกาศราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ที่

  • 3,779,000 บาท สำหรับ BMW 520d M Sport Pro (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard) และมี 5 เฉดสีตัวถัง ให้เลือกซื้อ ได้แก่ สีดำ Black Sapphire metallic, สีขาว Mineral White metallic, สีเทา Brooklyn Grey metallic, สีน้ำเงิน Phytonic Blue metallic, สีเขียว Cape York Green metallic พร้อมเบาะ Veganza สีดำหรือน้ำตาล Espresso Brown
  • 3,949,000 บาท สำหรับ BMW 530e M Sport Pro (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard) และมี 5 เฉดสีตัวถัง ให้เลือกซื้อ ได้แก่ สีดำ Black Sapphire metallic, สีขาว Mineral White metallic, สีเทา Brooklyn Grey metallic, สีน้ำเงิน Phytonic Blue metallic, สีเขียว Cape York Green metallic พร้อมเบาะ BMW Individual Merino สีดำ/เทา Atlas หรือสีน้ำตาล Copper/เทา Atlas
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่