หลังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก ด้วย BMW CE-04 ล่าสุดทางค่ายแห่งเมืองเบียร์ ก็ได้เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งรุ่น นั่นคือเจ้า BMW CE-02 ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ในขณะนี้

BMW CE-02 มาพร้อมกับงานออกแบบใหม่หมดทั้งคัน โดยอิงจากรถต้นแบบเมื่อ 2 ปีก่อน และแทบไม่ได้มีส่วนใดเลยที่อ้างอิงจากรุ่นพี่ CE-04 นอกจากชื่อเรียก ขณะที่ในด้านงานออกแบบ ก็เน้นการผสมผสานระหว่างความเป็นรถสกู๊ตเตอร์ และรถมอเตอร์ไซค์เข้าไว้ด้วยกัน จนทาง BMW ต้องบอกว่ามันไม่ใช่รถที่อยู่ในด้านใดด้านหนึ่งไปเลยเสียทีเดียวอย่างที่เคยมีมา และพวกเขาก็ได้นิยามใหม่ว่ามันคือรถแนว “eParkourer”

ตั้งแต่งานออกแบบไฟหน้า แบบกรอบเหลี่ยม พร้อมดวงไฟ LED Projecter 2 ชั้น, ฝาครอบกล่องควบคุมขนาดกระทัดรัด ในตำแหน่งถังน้ำมันของรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป, ตัวหน้าจอมาตรวัดแบบ Full-Digital TFT ขนาดเล็กเพียง 3.5 นิ้ว แต่แสดงผลค่าพื้นฐานครบครัน ทั้งความเร็ว ระยะทาง และปริมาณแบตเตอรี่เป็นต้น, เบาะนั่งแบบราบ สูงจากพื้นเพียง 750 มิลลิเมตร และสามารถนั่งได้ 2 คน (คนขี่+คนซ้อน)

โครงสร้างแบบโครงเหล็ก Double Loop, สวิงอาร์มอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบแขนเดี่ยว, ชุดล้ออัลลอยด์แบบตันขนาด 14 นิ้ว รัดด้วยยาง 120/80-14 และ 150/70-14 ตามลำดับหน้า-หลัง, โช้กหน้าตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 37 มิลลิเมตร พร้อมแผงคอสองชั้น – โช้กหลังแบบต้นเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ วางเฉียงข้างซ้ายของตัวรถ, ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสก์เดี่ยวขนาด 239 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มเบรกโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท – ด้านหลัง ดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มเบรกโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท

ด้านขุมกำลังของมัน คือมอเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถปั่นกำลังได้สูงสุด 11 kW หรือ 15 แรงม้า HP ที่ 5,000 รอบ/นาที โดยในจังหวะการขี่ปกติ(ไม่เค้นคันเร่ง) จะถูกคุมแรงม้าไว้ที่ 8 HP ขณะที่แรงบิดสูงสุดจะมีตัวเลขสูงถึง 55 นิวตันเมตร ที่ 0-1,000 รอบ/นาที โดยที่ตัวมอเตอร์จะสามารถปั่นรอบได้สูงสุด 6,700 รอบ/นาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง กับอัตราเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาต่ำกว่า 3.0 วินาที

ฝั่งแบตเตอรี่เองก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นครั้งแรก ที่ทาง BMW จะเลือกสร้างรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ผู้ใช้สามารถถอด และยกไปเสียบชาร์จ หรือสับเปลี่ยนได้เองตามสะดวก โดยตัวรถรุ่นนี้ จะสามารถใส่แบตเตอรี่ได้จำนวน 1 ก้อน ขนาด 3.92 kWh ซึ่งรองรับระยะทางการใช้งานสูงสุด 90 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WMTC

ขณะที่ความไวในการชาร์จไฟ เนื่องจากข้อจำกัดด้านขนาดตัวรถ กับแท่นชาร์จซึ่งต้องเสียบกับปลั๊กไฟบ้าน จึงทำให้แท่นชาร์จแบตเตอรี่ของ CE-02 สามารถรองรับการจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่ได้สูงสุดเพียง 0.9 kW ส่งผลให้ การชาร์จไฟจาก 20-80% ต้องใช้เวลามากถึง 170 นาที หรือราวๆ 2 ชั่วโมง กับอีก 50 นาที หรือหากเป็นการชาร์จไฟจาก 0-100% ก็ต้องใช้เวลานานถึง 330 นาที หรือราวๆ 5 ชั่วโมง กับอีก 30 นาที

ซึ่งแน่นอนว่าเวลาดังกล่าวนั้นค่อนข้างนาน จึงทำให้ทาง BMW มีออพชันแพ็คเกจ Fast Charge ที่เพิ่มขีดความสามารถของแท่นชาร์จให้สามารถจ่ายกำลังไฟชาร์จเข้าแบตฯได้มากขึ้นอีก เป็น 1.5 kW ส่งผลให้ การชาร์จไฟจาก 20-80% เร็วขึ้นอีกนิด เหลือ 140 นาที หรือราวๆ 2 ชั่วโมง กับอีก 20 นาที (เร็วขึ้น 30 นาที) หรือหากเป็นการชาร์จไฟจาก 0-100% ก็ต้องใช้เวลานานถึง 290 นาที หรือราวๆ 4 ชั่วโมง กับอีก 50 นาที (เร็วขึ้น 40 นาที)

ด้านลูกเล่นอื่นๆของตัวรถที่น่าสนใจ ก็มีทั้ง โหมดการขับขี่พื้นฐาน 2 แบบ ได้แก่ Flow ซึ่งให้อารมณ์เหมือนโหมดการใช้งานคันเร่งแบบนุ่มนวล และ Surf ที่คันเร่งจะมีความกระชับ เน้นการเรียกอัตราเร่งที่คล่องตัวว่องไว ตามด้วยโหมด Flash ที่เป็นโหมดคันเร่งออพชันเสริม ลูกค้าต้องซื้อแยก ซึ่งจะช่วยให้การเรียกอัตราเร่งแต่ละครั้งมีความติดมือมากขึ้นกว่าเดิมอีกพอสมควร (ก็คือโหมด Dynamic ในรถมอเตอร์ไซค์คันอื่นๆของ BMW นั่นเอง

นอกจากนี้ตัวรถยังมีระบบความปลอดภัย ทั้ง ระบบ ABS (เฉพาะล้อหน้า), ระบบ ASC (Automatic Stability Control) ระบบ RSC (Recuperative Stability Control) และมีระบบ Reverse assistant เสริมเข้ามาอีก เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ หากไม่สามารถถอยจอดเจ้ารถที่หนัก 132 กิโลกรัมคันนี้ ด้วยตนเองคนเดียวได้ไหว

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในไทย ทาง BMW Motorrad Thailand ได้มีการประกาศตัวเลขไว้แล้วเป็นที่เรียบร้อย ว่าจะอยู่ที่ 479,000 บาท โดยเปิดรับจองแล้วที่ศูนย์โชว์รูม BMW Motorrad ทั่วประเทศ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: