หลังเป็นเพียงข่าวลือมานาน ในที่สุด “เครื่องยนต์โรตารี” ก็ได้ถูกนำกลับมาใช้กับรถยนต์ขายจริงอีกครั้ง กับ Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ในขณะนี้

Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกันกับ MX-30 ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ในคราวนี้ มันได้ถูกดัดแปลงขุมกำลังใหม่ ให้กลายเป็นขุมกำลังแบบไฮบริด ผสมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์โรตารีที่ใครหลายคนคิดถึง

แต่ถึงแม้เครื่องยนต์โรตารีที่ว่า จะเป็นเครื่องยนต์แบบโรเตอร์เดี่ยว ขนาด 803cc มีอัตราส่วนกำลังอัด 11.9 : 1 ให้กำลังสูงสุด 75 แรงม้า ที่ 4,700 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทว่ามันกลับไม่ได้มีสมรรถนะไว้เพื่อส่งกำลังของตัวเองลงไปขับเคลื่อนชุดล้อแต่อย่างใด

เพราะในคราวนี้ มันถูกติดตั้งเข้ามาเพียงเพื่อปั่นมอเตอร์สำหรับชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ด้วยพลังไฟสูงสุด 1,500 วัตต์หรือไม่ก็ส่งไฟที่ว่าไปปั่นมอเตอร์ที่เป็นขุมกำลังหลักเพียงหนึ่งเดียวของตัวรถ สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อ ด้วยกำลังสูงสุด 170 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร

โดยหากเทียบกับตัวรถ MX-30 EV แม้มอเตอร์ของตัวรถร่างขุมพลังไฮบริดจะเป็นลูกเดียวกัน แต่ด้วยการปรับจูนใหม่ จึงทำให้เราพบว่า มันสามารถปั่นแรงม้าได้มากกว่าตอนที่มันยังต้องดึงกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ในตอนที่ยังเป็นร่าง EV 100% ทว่าแรงบิดสูงสุดกลับลดลงเล็กน้อยแทน เพราะตัวรถร่างต้นนั้นมีแรงม้าสูงสุดที่ 145 PS กับแรงบิดสูงสุด 271 นิวตันเมตร

ขณะเดียวกัน เนื่องจาก MX-30 R-EV มีเครื่องยนต์มาช่วยสร้างกระแสไฟแล้ว แบตเตอรี่ของมันจึงถูกลดขนาดลงครึ่งหนึ่งเพื่อไล่น้ำหนักส่วนเกินทิ้งไป (และลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นในอีกทางหนึ่ง) นั่นจึงเท่ากับว่ามันใช้แบตเตอรี่ขนาดเพียง 17.8 kWh เท่านั้น แทนที่จะเป็นขนาด 35.5 kWh

และถึงแม้การทำงานของระบบขุมกำลังที่ว่าจะคล้ายกับ Nissan Kicks e-Power แต่สิ่งที่เหนือกว่าคือผู้ใช้สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ได้ด้วย โดยหากเป็นการชาร์จไฟที่บ้านด้วยแท่นชาร์จแบบ Wallbox กำลัง 11 kW มันก็จะสามารถชาร์จไฟได้เต็มจาก 0-100% ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือหากเป็นการชาร์จด้วยระบบชาร์จไว DC Charge มันก็จะรองรับแรงดันไฟสูงสุดที่ 36 kW และสามารถชาร์จไฟ 20-80 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเพียง 25 นาที

และด้วยขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กลงกว่าครึ่ง จึงทำให้หากเป็นการวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน เจ้า MX-30 ขุมพลังไฮบริดนี้ จะสามารถวิ่งได้ไกลสุดเพียง 85 กิโลเมตร เท่านั้น ตามมาตรฐาน WLTP ในโหมดดังกล่าว ซึ่งอันที่จริงนั่นก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนเมือง

ในฝั่งเครื่องยนต์โรตารีที่ต้องใช้น้ำมันเบนซิน เป็นแหล่งพลังงาน ตัวรถรุ่นนี้ก็จะมีถังน้ำมันที่ใหญ่ถึง 50 ลิตร ติดตั้งมาให้ ซึ่งทาง Mazda ระบุว่ามันจะช่วยขยายระยะทางในการวิ่งของรถคันนี้ได้อีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 600 กิโลเมตร

หรือหากไม่อยากคิดเลขซับซ้อน ทาง Mazda ก็มีการเคลมตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเอาไว้ว่ามีตัวเลขที่ดีมากถึง 100 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียว ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP

โดย Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 9.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Electronic Lock) กับน้ำหนักตัวที่มากถึง 1,703 กิโลกรัม

ส่วนราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีการเปิดข้อมูลเลขเอาไว้แล้วในประเทศเยอรมันนี ด้วยตัวเลข 35,990 ยูโร หรือราวๆ 1,281,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่