หลังปล่อยให้ชาวโลกต้องรอคอยกันนานหลายเดือน นับตั้งแต่มีการเผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด 2023 Mercedes-Benz EQS SUV ก็ถูกเคาะราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะเริ่มต้นที่ 104,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,843,000 บาท ในประเทศสหรัฐอเมริกา

Mercedes-Benz EQS SUV

Mercedes-Benz EQS SUV ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกันกับ EQS รุ่นซีดาน เพียงแต่ด้วยโจทย์การใช้งานที่ต่างออกไป จึงทำให้เจ้าเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นนี้ มาพร้อมกับเส้นสายที่ดูบึกบึนยิ่งขึ้นกว่าตอนยังเป็นร่างซีดาน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระจังหน้าที่ดูใหญ่กว่า แต่ยังคงให้แนวกรอบไฟหน้า และเส้นเชื่อมแบบคันธนูโค้งกลับอันเป็นเอกลักษณ์ที่คล้ายเดิม

ส่วนชิ้นซุ้มล้อหน้า-หลังเอง ก็ถูกเสริมความโหนกนูนให้ยื่นออกมาทางด้านข้างมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายแบบ 3D helix design เองก็มีการปรับทรงใหม่นิดหน่อย ให้มีความเป็นสันกรอบน้อยกว่า เพื่อลดความสปอร์ตลง ส่วนชุดล้อก็มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20 ไปจนถึง 22 นิ้ว ตามรุ่นย่อย

พร้อมระบุตัวเลขมิติความยาวที่ 5,125 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,959 มิลลิเมตร, ความสูง 1,718 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อยาว 3,210 มิลลิเมตร

ด้านงานตกแต่งภายใน หากมองไปที่คอนโซลด้านหน้าเพียงอย่างเดียว มันก็แทบจะให้บรรยากาศที่ไม่หนีไปจาก EQS ร่างซีดานมากนัก เพราะมันยังคงได้ชุดจอแสดงผล MBUX Hyperscreen ที่จะเป็นการเชื่อมการทำงานระหว่างจอ 3 จอ ได้แก่ จอมาตรวัด+จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ตรงกลาง+จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ฝั่งผู้โดยสาร เข้าไว้ด้วยกัน

และมีการล้อมกรอบแล้วปิดทับด้วยกระจกสีทึบบริเวณที่ไม่ใช่ส่วนของการแสดงผลเอาไว้ เพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกว่าทั้ง 3 จอ คือจอเดียวกัน ซึ่งจอหลักตรงกลางที่ว่า ยังสามารถสั่งการทำงานชุดจอที่อยู่บนหัวเบาะคู่หน้า สำหรับผู้โดยสารที่นั่งในเบาะแถวสองได้อีกด้วย

นอกนั้นในส่วนของพวงมาลัย งานตกแต่ง และปุ่มกดต่างๆบนแผงประตู ไม่เว้นแม้แต่บนอุโมงค์เกียร์ (ซึ่งจริงๆรถก็ไม่ได้มีระบบเกียร์แต่อย่างใด) ก็ยังมีหน้าตาที่เหมือนกัน EQS ซีดานทั้งหมด เว้นเพียงความสูงของหลังคาแก้วทางด้านบน ที่สูงขึ้น และรูปทรงเบาะนั่ง กับจำนวนเบาะนั่ง ที่เพิ่ม จาก 5 ที่นั่ง เป็น 7 ที่นั่ง ตามฉบับรถเอสยูวีเพียงเท่านั้น

โดย Mercedes EQS SUV จะมีการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งพวกมันก็จะมีความแตกต่างกันในส่วนออพชัน ขุมกำลัง และระยะทางในการวิ่งสูงสุด เริ่มจาก

  • 450+ สนนราคาเริ่มต้น 104,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,843,000 บาท
    มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดี่ยว สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลัง ให้กำลังสูงสุด 265 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 360 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุดอีก 568 นิวตันเมตร จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 107.8 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 536-660 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
  • 450 4MATIC สนนราคาเริ่มต้น 107,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,953,000 บาท
    มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสองลูก สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้าและหลัง ให้กำลังรวมกันสูงสุด 265 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 360 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุดอีก 800 นิวตันเมตร จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 107.8 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 507-613 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
  • 580 4MATIC สนนราคาเริ่มต้น 125,950 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 4,636,000 บาท
    มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสองลูก สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้าและหลัง ให้กำลังรวมกันสูงสุด 400 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 544 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุดอีก 858 นิวตันเมตร จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 107.8 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 507-613 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

ข้อมูลจาก Motor1

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่