นับตั้งแต่เปิดตัวที่จีนกวาดยอดขายไปกว่า 200,000 คัน และเป็น 1 ใน 7 รุ่นที่เตรียมโชว์ตัวที่งาน Motor Show 2024 สำหรับ BYD Seagull

แต่ถ้าเมื่อขายในต่างประเทศอาจรวมถึงเมือไทยจะใช้ชื่อว่า BYD Dolphin Mini ประเดิมขายในกลุ่มละตินอเมริกา มาในร่างรถทรงกล่อง 5 ประตูเล็กว่ารุ่น Dolphin เท่ด้วยไฟหน้า LED พร้อมตรา BYD ขนาดใหญ่รับกับชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านข้างออกแบบกระจกบานหน้าบานหลังเล่นระดับพร้อมที่เปิดประตูแบบยกก้านดีไซน์คล้ายรถยุค 90 ด้านท้ายเล็กตามตัวรถด้วยไฟท้าย LED แนวยาวกันชนหลังติดตั้งป้ายทะเบียนรถใต้ฝาท้าย ล้อและยาขนาด 16 นิ้วสร้างจากแพลตฟอร์ม e-platform 3.0

ภายในเรียบง่ายด้วยแผงคอนโซลหน้าปรับในส่วนช่องแอร์ของแผงคอนโซลหน้าซ้าย-ขวา ตรงกลางใต้แผงจอสัมผัส เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนไม่ใช่ทรงกลม เบาะนั่ง Bucket Seat ทรงสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน จอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว และกุญแจแบบการ์ด NFC

ขุมพลังไฟฟ้าให้กำลังมากสุด 74 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น TZ180XSH แถมให้ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความจุแบตเตอรี่ถึง 2 รูปแบบเริ่มที่รุ่นเริ่มต้น ให้ความจุแบตเตอรี่ 30.08 kWh  วิ่งไกลสุด 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC

และรุ่นท็อปให้ความจุแบตเตอรี่ 38.88 kWh 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC โดยชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% ในเวลา 30 นาที กับชาร์จช้ากระแสสลับ AC กำลังสูงสุด 6 kW  และเป็นการใช้แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน ที่ต้นทุนถูกกว่าแบตนิเกิล-เมทัลไฮไดรด์ และแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนฟอสเฟต

และมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็น 1 ใน 5 รุ่นที่เตรียมขายไทยภายในปี 2024 และสามารถพบตัวจริงได้ที่งาน Bangkok Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายนนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่