สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆค่ายรถยนต์จากเมืองฮิโรชิม่าเมื่อ Mazda เผยทีเซอร์ THE TAKUMI TOUCH พร้อมเผยโฉม Mazda CX-60 ในช่วงท้ายของคลิป

Mazda CX-60 มาในฐานะเอสยูวีไซซ์กลางทรงหรูหน้าตาสวยตามสไตล์ Kodo Design พร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED กันชนหน้าทรงเท่คล้ายกับ CX-50 ผสมกับ BT-50 ชุดบังโคลนพร้อมดีไซน์ออกแบบด้วยชุดรังผึ้งส่วนล่างเป็นคิ้วสีดำปักชื่อ INLINE 6 หรือ PHEV
ไฟท้าย LED Signature รูปตัวซีแบบแยกคั่นกลางด้วยโลโก้ Mazda ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ท่อไอเสียคราวนี้มาในแบบท่อไอเสียคู่สองฝั่งซ่อนอยู่ใต้กันชนหลังและช่องลมข้างบังโคลนแบบโครเมียม ล้ออัลลอยมีทั้งขนาด 18 นิ้วและ 20 นิ้ว

ภายในหรูตกแต่งด้วยโทนสีใสๆ ด้วยโทนสีขาวหรือสีเทาอ่อน สดใส และสีเข้มด้วยการติดตั้งวัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นลายไม้เมเบิ้ล หรือ Mable Wood
วัสดุหุ้มหนังแท้ Nappa รวมถึงการใช้ผ้าทอแบบญี่ปุ่น และการตกแต่งโครเมียม โดยเป็นการตกแต่งภายในรูปแบบ “Musubu” โดยได้แรงบันดาลใจจากการเย็บเดินด้ายในชุดแผงมาตรวัดแบบประณีต และ รูปแบบดีไซน์ภายในภายใต้แนวคิด Kaichô หรือ ความกลมกลืนที่มาจากการผสมวัสดุและพื้นผิวที่แตกต่างกัน
ด้วยมาตรวัดดิจิทัล TFT-LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect infotainment รองรับ Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE 12 จุด และจอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Display ขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า และพร้อมพื้นที่การขนของมากถึง 477 ลิตร ในรุ่น PHEV กับ 570 ลิตร ในรุ่น MHEV และเมื่อพับเบาะหลังลงมีพื้นที่ถึง 1,726 ลิตร

ขุมพลังมีหลากหลายตามทั้งขุมพลังสันดาปล้วน SKYACTIV สำหรับญี่ปุ่น ดีเซลล้วนเทอร์โบ 6 สูบแถวเรียง 3.3 ลิตร ให้กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ยังมี เบนซินล้วน SKYACTIV-G ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ กำลังสูงสุด 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร
ขุมพลัง e-SKYACTIV Mild Hybrid สำหรับตลาดทั่วโลก มีทั้งดีเซลเทอร์โบ e-SKYACTIV D 3.3 ลิตร 6 สูบ 254 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร เบนซินเทอร์โบ 6 สูบแถวเรียง e-SKYACTIV Turbocharged 3.3 ลิตร 6 สูบ 284 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ทั้ง 2 ขนาดจับคู่กับระบบ M Hybrid Boost 48 V โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้า 17 แรงม้า แรงบิด 153 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กสุด 0.33 kWh

ขุมพลัง Plug In Hybrid e-SKYACTIV เฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร 4 สูบ 188 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 175 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีความจุ 17.8 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 61-63 กิโลเมตร และทำงานร่วมกันจะได้พลังมากถึง 327 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
ทุกขนาดขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 8 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ i-ACTIV AWD พร้อมระบบการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) ที่เลือกได้ถึง 5 โหมดได้แก่ Namely Normal, Sport, Off-Road, Towing และ EV
พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง KPC (Kinemetic Posture Control) ช่วยให้รถทำงานผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับตัวรถ และความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE

ตามแผนกลยุทธ์ Multi-solution สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV 2 รุ่น รถ PHEV 1 รุ่น และรถ HEV 2 รุ่น รวม 5 รุ่น ภายในปี 2025-2028 จับตารุ่นนี้จะเป็น 1 ใน 5 มาไทยหรือไม่ต้องติดตาม