ขณะที่กว่า Tesla Model Y โฉมแรก ต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าจะมีรุ่น 7 ที่นั่งให้ลูกค้าสายครอบครัวได้เลือกซื้อ ฝั่ง Model Y รุ่นใหม่รหัส Juniper กลับต่างออกไป

Tesla คือหนึ่งในแบรนด์ที่อาจจะดูเหมือนว่าพวกเขาให้ออพชันครบครันมากับรถของตนเอง แต่ถ้าลองมองกันดีๆ เราจะเห็นว่าพวกเขาคือแบรนด์ที่ค่อยๆทยอยอัพเดทนู่น นี่ นั่น ทีละนิด ทีละหน่อย ให้กับรถของตนเองเพื่อคอยกระตุ้นตลาดเป็นพักๆต่างหาก
นั่นจึงทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กว่ารถ Tesla Model Y จะมีรุ่น 7 ที่นั่ง เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้สายครอบครัว จริงๆสักที ลูกค้าก็ต้องรอกันจนเกือบจะปลายอายุตัวถังโมเดลแรกเข้าไปแล้ว
แต่ล่าสุด สำหรับตัวรถ Model Y Juniper ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีก่อน ตอนนี้ทางค่ายกลับเริ่มมีการปล่อยข้อมูลของตัวรถรุ่น 7 ที่นั่งออกมาบ้างแล้ว โดยเป็นการโปรยอีเมลแจ้งข่าวให้กับเหล่าลูกค้าและผู้ใช้ที่สนใจ เพื่อตั้งตารอการมาของมัน ด้วยประโยคว่า “พร้อมสำหรับการเดินทางไกล, เบาะนั่งภายในห้องโดยสารมากสุดเจ็ดตำแหน่ง และมีพื้นที่มากพอสำหรับสัมภาระของทุกคน”
โดยหากอิงตามวิธีการปรับเปลี่ยนตัวรถ จากรุ่น 5 ที่นั่งให้กลายเป็น 7 ที่นั่ง ของ Model Y โฉมก่อน ก็ดูเหมือนว่านั่นคือสิ่งที่ Tesla จะทำลงไปบนเจ้า Model Y Juniper นี้ด้วยเช่นกัน นั่นคือ การยืดระยะฐานล้อของรถออกอีกเล็กน้อย และขยับเบาะแถว 2 ให้เคลื่อนมาทางด้านหน้าอีกหน่อย แล้วจึงค่อยติดตั้งเบาะนั่งแถว 3 เข้าไป ในบริเวณเกือบท้ายสุดของห้องโดยสาร เพื่อให้มันยังพอมีที่เก็บสัมภาระต่างๆบ้างทางด้านท้าย
ประเด็นก็คือ แม้ไอเดียข้างต้น จะฟังดูน่าสนใจ และทำให้ตัวรถดูน่าใช้มากขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีครอบครัวใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเบาะแถวหลังที่ถูกเพิ่มขึ้นมา กลับไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก และด้วยการออกแบบหลังคาทรงโค้ง แถมยังลาดต่ำลงมาจรดท้ายรถตั้งแต่เสา B (กึ่งกลางหลังคาพอดี) ทำให้พื้นที่นั่งแถว 3 จริง ก็เหมาะสำหรับเด็กประถมวัย หรือไม่เกิน ม.ต้น เท่านั้น
ในทางกลับกัน หากผู้ใช้ ไม่ได้มีใครนั่งในเบาะแถวหลังสุด พวกเขาก็สามารถพับมันให้แบนราบ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระแทนได้ และด้วยระยะฐานล้อที่มากกว่าเดิม จึงทำให้มันเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของสัมภาระด้วยในตัวได้เช่นกัน
นอกจากตัวรถรุ่น 7 ที่นั่ง ที่ผู้ใช้สายครอบครัวรอคอย ทาง Tesla ยังเดินหน้าพัฒนาตัวรถรุ่นเอาใจขาซิ่ง หรือตัว Performance ไปด้วยในขณะเดียวกัน และแหล่งข้อมูลยังระบุว่า มันจะใช้มอเตอร์คู่ชุดเดียวกับ Tesla Model 3 erformance รุ่นล่าสุด ซึ่งให้กำลังสูงสุดราวๆ 517 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอีกราวๆ 751 นิวตันเมตร
และคาดว่ามันจะทำให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 3.2-3.3 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน แต่ระยะทางในการใช้งานสูงสุดต่อชาร์จ คาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 466 กิโลเมตร/ชาร์จ
โดยกำหนดการเปิดตัวรถทั้งสองรุ่น คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วสุดภายในช่วงไม่เกินไตรมาส 3 หรืออย่างช้าที่สุด คือช่วงไม่เกินไตรมาส 4 ของปีนี้