Tesla ยังคงพยายามเดิมหน้าขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและมั่นคง กับการเปิดตัวศูนย์บริการแห่งใหม่ในไทยเป็นแห่งที่ 2 โดยคราวนี้ตั้งอยู่ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันตก ย่านปลายถนนราชพฤกษ์ ใกล้วงเวียนพระราม 5

Tesla Center พระราม 5 สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในโซนตะวันตกของกรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับ Model 3 และ Model Y รวมถึงเข้ารับบริการหลังการขายได้ครบถ้วนในที่เดียว ณ ศูนย์บริการแห่งนี้ ทั้งการซ่อมบำรุง การเซอร์วิสต์รถ และการรับรถ เช่นเดียวกับศูนย์บริการรามคำแหงที่เดิมทีมีไว้รับรองลูกค้าและผู้ที่สนใจในฝั่งตะวันออก เพื่อเสริมความครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั่วทั้งกรุงเทพฯ
โดยศูนย์แห่งใหม่นี้ จะมีการเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น. ณ พระราม 5 ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับล่วงหน้าได้ที่: https://www.tesla.com/event/tesla-center-rama5
“เป้าหมายของเราคือการเร่งเปลี่ยนแปลงโลกสู่พลังงานที่ยั่งยืน โดยการสร้างเครือข่ายการชาร์จที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง ซึ่งการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ก็เพื่อมอบประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้าที่ไร้รอยต่อในประเทศไทย” Isabel Fan ผู้อำนวยการอาวุโสประจำภูมิภาคของ Tesla กล่าวในงานเปิดตัวศูนย์บริการแห่งใหม่ในไทย
“โดยรูปแบบธุรกิจของ Tesla เป็นโมเดลธุรกิจที่ขายและให้บริการโดยตรง(ไม่ได้มีการจับมือกับนักลงทุนท้องถิ่นให้วุ่นวายในการบริหาร, การทำราคา, และการบริการ) ครบวงจรกับลูกค้าของเราทุกๆคนในไทย การขับเคลื่อนนี้เพิ่มการตระหนักรู้เรื่องยานยนต์ไฟฟ้าในสังคม รวมถึงเพิ่มความต้องการและความมั่นใจต่อการเดินทางที่ยั่งยืนในระยะยาว”
ไม่เพียงเท่านั้น ทาง Tesla ยังได้มีการเปิดตัวแท่นชาร์จ Tesla Supercharger V4 ครั้งแรกในไทย ทั้งหมด 4 ตู้ด้วยกัน โดยตู้แรกสุดที่มีการติดตั้ง จะมาพร้อมงานออกแบบกราฟิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมไทย สะท้อนทั้งความล้ำสมัยและการเชื่อมโยงกับท้องถิ่นในเวลาเดียวกัน
โดยเทคโนโลยีตู้ชาร์จ V4 สามารถรองรับกำลังในการจ่ายไฟไฟชาร์จสูงสุดถึง 250 กิโลวัตต์ต่อคัน ช่วยให้รถ Model 3 รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Long Range สามารถเพิ่มระยะทางได้สูงสุด 282 กิโลเมตรในเวลาเพียง 15 นาที และยังมีสายชาร์จที่ยาวขึ้นเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
นอกจากนี้ ตัวเลขกำลังไฟสูงสุดในการชาร์จข้างต้น ยังสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต เมื่อมีรถที่รองรับกำลังชาร์จมากขึ้นกว่าเดิมในปัจจุบันได้อีก จึงถือเป็นการวางแผนในระยะยาวสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะเข้ามาเสริมตลาดในประเทศไทยในอนาคตอีกด้วยในตัว
ทำให้ปัจจุบัน Tesla มีสถานี Supercharger รวมทั้งหมด 32 แห่ง (193 หัวชาร์จ) โดยยังมีอีก 13 สถานี Destination Charging (52 หัวชาร์จ) ทั่วประเทศไทย
และทางค่ายยังจะมีการเพิ่มตู้ชาร์จอีก 8 แห่งภายในสิ้นปีนี้ เพื่อขยายขอบเขตการใช้งานของลูกค้าทั่วประเทศให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนจะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ต้องรอการอัพเดทข้อมูลกันต่อไป