การเปิดตัว Suzuki Fronx ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนต่างให้ความสนใจ แนวทางใหม่ซูซูกิ ในการทำตลาดในประเทศไทย

แม้ว่าปีก่อนหน้า ทางแบรนด์จะมุ่งเน้นการวางแผนทำตลาด โดยการยุบโรงงานไทย หลังจากสิ้นโครงการอีโค่คาร์ เปลี่ยนมาสู่ภาพรถนำเข้าตอบโจทย์ลูกค้า แทนการผลิตในไทย

แต่กลยุทธสำคัญ ของ Suzuki ตลอดหลายปีทีผ่านมา ถูกส่งผ่านนโยบายใหม่ ที่ใช้มาตั้งแต่วาระ 100 ปี Suzuki , Sho Sho kei Tan Bi สะท้อนถึงการสร้างรถยนต์ยุคใหม่ของ ซูซูกิ ในยุคนี้และยุคต่อไป

ชื่อนโยบายอาจฟังยาก แต่ความจริงแล้วมันเข้าใจง่ายมาก คือ การสร้างรถที่มีขนาดเล็กลง ตอบโจทย์ได้มากขึ้น สร้างรถโดยมุ่งเน้นที่ลูกค้าเป็นหลัก

ในภาษาญี่ปุ่น ถ้าแปลตรงตัว Sho Sho key Tan Bi จะแปลความหมายได้ว่า “เล็กลง” “เบาขึ้น” “สั้นลง” และเนี้ยบขึ้น

ทั้งหมด คือสิ่งที่ Suzuki สะท้อนเป็นรถอเนกประสงค์ใหม่ อย่าง Suzuki Fronx ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดมาแล้ว ทั่วโลก ทั้งในญี่ปุ่น และอินเดีย สองตลาดหลักของรถยี่ห้อนี้

สิ่งที่ Suzuki คิด และเป็นสิ่งสำคัญ คือ พวกเขาเชื่อว่า รถยนต์นั่งขนาดเล็กจะเป็นอนาคตที่สำคัญ ของอุตสาหกรรมยานยนต์

สาเหตุสำคัญ​ก้มาจากความเข้มงวดการปล่อยไอเสีย หรือ CO 2 ที่ต้องมีจำนวนน้อยลงตามลำดับ รถยนต์นั่งขนาดเล็กจะทำให้ผู้ผลิตหลายเจ้า สามารถบรรลุเป้าดังกล่าวได้อย่างไม่ยากเย็น

การย่อขนาดรถจากปัจจุบันลง มีผลทำให้น้ำหนักตัวรถเบาขึ้น เมื่อเบาขึ้นก็ประหยัดขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่

เมื่อเครื่องยนต์มีขนาดเล็กลง ก็ปล่อยไอเสียน้อยลง โดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เพื่อสร้างความประหยัดในการใช้งาน

ในกรณีนี้ ทางซูซูกิ ยกตัวอย่าง ขนาดรถที่พวกเขาวางจำหน่ายอยู่ภายใต้โครงสร้างตัวถัง Heartec อย่างรถที่ผลิตในญี่ปุ่น จะมีน้ำหนักเฉลี่ย 829 กิโลกรัม น้อยกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่จะอยู่ในระดับ 1,261 กิโลกรัม อัตราส่วนเดียวกันนี้ ถูกใช้ในรถที่วางจำหน่ายในประเทศอื่นๆ

ทางซูซูกิ ชี้ว่าทำให้ ลดการปล่อยไอ้สียในขั้นตอนการผลิตได้ถึง ร้อยละ 20 และ ลดได้ 6% ในระหว่างการใช้งาน

นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อเรามาดุข้อมูลอัตราประหยัดพลังงานของ Suzuki Fronx ในรุ่่น GLX สามารถทำอัตราประหยัดได้ 21 ก.ม./ลิตร ในการใช้งานนอกเมือง จากการใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมระบบ Mild Hybrid ง่ายๆ ลดความกังวลใจในการใช้งานรถในระยะยาว

นอกจากนี้ ขนาดเล็กลง ยังมีผลต่อความปลอดภัย เช่น ใช้ระยะเบรกสั้นลง ,​มีความรุนแรงในการชนน้อยลงด้วย รวมถึง การซ่อมบำรุงจากการชนที่ง่ายขึ้น มีค่าใช้จ่ายน้อยลง

อย่างไรก็ดี ,​แนวทางนี้ ดูเหมือน ไม่ใช่เพียงทาง Suzuki เท่านั้น ที่เลือกจะนำมาตอบโจทย์ลูกค้าของพวกเขา

เพราะแบรนด์ยุโรปหลายแบรนด์ ก็เริ่มที่จำทำแบบนี้เช่นกัน อาทิ Volvo เริ่มมีรถที่มีขนาดเล็ก Volvo EX 30 ตอบลูกค้าของพวกเขา

หรือในไทย เราได้เห้นการมาของ Toyota Yaris Cross ที่มีขนาดเล็กลง ไปจนถึง Honda WR-V

แต่สำหรับ Suzuki ขนาดที่เล็กลงไม่ใช่อย่างเดียว มันต้องตอบได้ทั้งการใช้งาน และเหมาะสมต่อการขับขี่ของลูกค้าที่มองหารถรุ่นนั้นๆ

ในวันนี้ Suzuki Fronx เป็นรถรุ่นแรกที่เดินตามกลุยุทธ์ใหม่นี้ มันอาจเป็นเพียงรถยนต์อเนกประสงค์อีกรุ่น แต่ความจริงแล้วแฝงไว้ด้วยความครบครัน และสมรรถนะในการขับขี่อย่างครบเครื่องในการใช้งาน

ให้นิยามสั้น “เล็กแต่เท่ห์ ถูกใจงบในกระเป๋า”

เรื่องโดยทีมงาน Ridebuster