หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของเทคโนโลยีระบบขุมกำลัง e-Power เจเนอเรชันที่ 3 ก็คือการที่มันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบนี้โดยเฉพาะ และนั่นย่อมหมายความว่ามันไม่ใช่เครื่องยนต์ธรรมดาๆแน่นอน

จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยทาง Nissan บริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าขุมกำลัง e-Power เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งพึ่งถูกเปิดตัวไปได้ไม่นาน จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบลูกใหม่ ซึ่งใช้รหัส ZR15DDTe คือเครื่องยนต์ที่เกิดมาเพื่อระบบ e-Power นี้โดยเฉพาะ หรือว่าง่ายๆคือ มันเกิดมาเพื่อปั่นไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่อย่างแท้จริง

โดยจุดเด่นสำคัญของเครื่องยนต์ลูกนี้ ก็คือการที่มันมีค่าประสิทธิภาพเชิงความร้อนที่สูงถึง 42% ซึ่งช่วยให้มันสามารถนำพลังงานที่ได้จากการสันดาปเชื้อเพลิง มาแปลงเป็นพลังงานเชิงกลได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น และยังลดทั้งเสียง กับความร้อนที่เกิดขึ้นไปในตัว

และตัวแปรสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ทาง Nissan ก็ระบุว่ามันเกิดจากไอเดียการพัฒนาเทคโนโลยี “STARC” หรือ Strong Tumble & Appropriately stretched Robust ignition Channel ซึ่งถูกนำเสนอข้อมูลเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2016 เข้าไป โดยมันจะช่วยให้การไหลเวียนอากาศทั้งขาเข้าและขาออกที่ไหลลื่นขึ้นไปอีกขั้น

สาเหตุก็เพราะ ตัวฝาสูบของเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้ จะไม่มีการใช้บ่าวาล์วแบบดั้งเดิมเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน และใช้ตัวฝาสูบปาดเจียร ให้รับกับชุดวาล์วโดยตรงไปเลย ทำให้กระแสลมที่ไหลผ่านเข้า-ออก จากพอร์ทไอดี-ไอเสีย จะไม่มีการสะดุด หรือถูกขัดจากรอยต่อระหว่างฝาสูบกับตัวบ่าวาล์ว

และจากการที่ตัวเสื้อสูบ ต้องทำหน้าที่เป็นบ่าวาล์วด้วยตนเอง ไม่ได้มีบ่าวาล์วมารับหน้าที่แทนอีกต่อไป ทำให้ทาง Nissan ต้องเสริมความแข็งแรงของเสื้อสูบในส่วนที่จะทำหน้าที่นี้เพิ่มเติม ด้วยการใช้เทคโนโลยี Cold Spray ซึ่งจะเป็นการพ่นผงโลหะเข้าไปในบริเวณที่จะทำหน้าที่เป็นบ่าวาล์ว

และจากกรรมวิธีในการพ่นผงโลหะที่ว่าด้วยความเร็วเหนือเสียง ทำให้มันสามารถยึดเกาะอยู่กับผิวเสื้อสูบในบริเวณที่ถูกพ่นได้เป็นอย่างดีถึงระดับโมเลกุลคล้ายๆกับการเชื่อมโลหะ แต่เนื่องจากกรรมวิธีนี้ ไม่ได้มีความร้อนเกิดขึ้น จึงทำให้ชิ้นงานจะไม่มีการบิดเบี้ยว หรือผิดรูปไปจากที่ควรจะเป็นเพราะความร้อนใดๆทั้งสิ้น

และด้วยความแข็งแรงที่เกิดขึ้นจากการทำ Cold Spray ทำให้เสื้อสูบบริเวณที่เป็นบ่าวาล์ว มีความแข็งแรง และทนทานมากขึ้น ช่วยลดทั้งความสึกหรือ และยังมีความคงทนต่อการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆมากกว่าการใช้บ่าวาล์วเหมือนเครื่องยนต์ทั่วๆไป รวมถึงทำให้ความร้อนจากห้องเผาไหม้ สามารถถ่ายออกมาสู่ฝาสูบ เพื่อระบายออกไปจากเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้นอีก

โดยนอกจากการนำขุมกำลัง e-Power รุ่นใหม่ ไปใช้กับรถ Nissan Qashqai เพียงรุ่นเดียว ทางค่ายยังระบุว่าพวกเขามีแผนจะเปิดตัวรถที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีนี้เพิ่มเติมอีก เช่น Nissan Rogue (Nissan X-Trail) และยังรวมถึง Nissan Elgrand ที่ทั้งสองต่างมีลิสต์ความเป็นไปได้ที่จะถูกนำมาทำตลาดในประเทศไทยของเราเร็วๆนี้ด้วย