ในที่สุดก็มีความชัดเจน หลังจากวานนี้กระแสข่าวสะพัดว่า BYD ยกเลิกการวางจำหน่ายรถกระบะ BYD Shark 6 ในไทย จนยังคำถามว่า “พวกเขายกธงขาวจริง ตลาดกระบะแล้วหรือ??”
เรื่องดังกล่าว ถูกเปิดเผยโดย นาย เบนสัน เคอ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท บีวายดี ประเทศไทย จำกัด ยืนยันว่า ทางบีวายดี ตัดสินใจไม่จำหน่าย BYD Shark 6 ทั้งรุ่นนำเข้าและประกอบไทย ตามแผนเดิมที่เคยเผยว่าจะเริ่มส่งมอบในช่วงเดือนกันยายนนี้เป็นไป
BYD Shark 6 ราคาแรง ..อาจไม่ตอบโจทย์
ย้อนกลับไปในช่วงงานมอเตอร์โชว์ 2025 ,เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้เปิดรับจอง BYD Shark 6 กระบะไฮบริดรุ่นแรกของทางค่าย ที่เริ่มวางจำหน่ายไปแล้วในหลายประเทศ
ทาง เรเว่ ในฐานะผู้ทำตลาดตัวแทนของ BYD Thailand เปิดราคาจำหน่ายที่ 1,699,900 บาท เปิดจองสิทธิจำนวน 500 คัน เป็นน้ำจิ้มย่อย ก่อนจะมีรายงานตามข่าวการยกเลิกขายว่า ทางบริษัทได้รับยอดเพียง 153 คันเท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้ BYD Shark 6 ไม่ได้รับความสนใจอย่างที่ควรจะเป็น น่าจะมีเหตุจากหลายประเด็น
ข้อแรก, คนไทยคุ้นกับกระบะดีเซลมานาน จนกระบะเบนซินไม่ได้รับความสนใจ เว้นสายสมรรถนะ ซึ่งก็จะหนีไป Ford Ranger Raptor V6 3.0 ไปเลย อีกกลุ่ม คือกลุ่มสายประหยัด ซื้อแล้วนำไปติดแก๊สใช้วิ่งงาน
ข้อต่อมา , น่าจะเป็นในเรื่องของราคาจำหน่าย 1,699,900 บาท เป็นราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร กับกระบะสักคัน แม้จะมีสมรรถนะสูง
ยิ่งกว่านั้น BYD Shark 6 ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ PHEV ระบบ DMO (Dual Mode Offroad) ทำให้ลูกค้าจำนวนมากอาจกังวลต่อการใช้งาน โดยเฉพาะการใช้แบบสมบุกสมบัน และ ด้วยความใหม่จึงยังผลิตที่ประเทศจีนเท่านั้น
หงายการ์ด กระบะใหม่ขายไทย
แม้ว่าจะมีความตั้งใจอยากจะทำตลาดเพียงใด แต่เมื่อลูกค้าไม่ตอบสนองก็จอดป้าย
หากการเดินเกมนี้ อาจไม่ใช่การถอยทัพจากตลาดกระบะ หรือยกธงขาว ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน BYD
เบนสัน ได้เปิดเผยต่อว่า ทาง BYD มีแผนในการแนะนำกระบะ PHEV เข้าสู่ตลาดประเทศไทยในปีหน้า
รถรุ่นนี้ไม่ใช่ BYD Shark 6 และจะนำเข้ามาประกอบในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยี DM-i ถือเป็นการแจ้งข่าวดี ท่ามกลางข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน
ไทย จ่อเป็น ฐานกระบะรุ่น 2
จากการเปิดเผยดังกล่าว ทำให้เป็นไปได้ว่า กระบะ PHEV รุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาทำตลาดแทน BYD Shark 6 อาจจะเป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้าง กระบะรุ่นที่ 2 ของทาง BYD ที่มีกำหนดวางขายในประเทศจีนในไตรมาส 3 ปีนี้ ที่ประเทศจีน ตามที่ข้อมูลออกมาจากต่างประเทศ
ย้อนไปในเดือนพฤษภาคม 2025 มีกระแส ข่าวเรื่องกระบะรุ่นที่ 2 ของ BYD มีแผนเตรียมทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ในประเทศจีน
รายงานชิ้นเดียวกันชี้ว่า มันจะเป็นรถในตระกูลราชวงศ์ มุ่งเน้นความหรูหรา ปนความสปอร์ตอย่างครบเครื่อง
แรกเริ่มเดิมที ตามข้อมูลระบุว่า ทาง BYD พัฒนารถรุ่นนี้บนโครงสร้างพื้นฐาน BYD Shark 6 ก่อนจะมีภาพหลุดออกมา 2-3 ภาพ แสดงให้เห็นว่าตัวรถมีความแตกต่างจาก Shark 6 อย่างชัดเจน และอาจไม่ใช่ อย่างที่สื่อต่างๆคาดการณ์
กระบะร่างเก๋ง ตลาดใหม่ที่ยังไม่มีใครเจาะ
ถึงข้อมูลเกี่ยวกับ ว่าที่กระบะ PHEV ใหม่ BYD จะมีข้อมูลน้อยมาก เว้นตามข่าวเดิมตั้งแต่เดือน พฤษภาคม
แต่เมื่อ นำข้อมูลของนาย เบนสัน เข้ามาประกอบ ปริศนาบางข้อก็ดูจะคลี่คลายเห็นภาพชัดขึ้น
ข้อแรก ,มันจะเข้ามาผลิตในไทย และ ใช้เทคโนโลยี DM-i หรือ Dual Mode -intelligent
ปัจจุบัน โรงงาน BYD ในประเทศไทย ผลิตรถที่มาพร้อมกับ ระบบขับเคลื่อน 1.5 ลิตร DMi เท่านั้น ปัจจุบันระบบนี้ แนะนำในรถ BYD seal 5 Dmi และ BYD Sealion 6 ดังนั้น ว่าที่กระบะใหม่จึงอาจจะใช้ระบบขับเคลื่อนเดียวกัน
ไม่เพียงแค่นี้ ปัจจุบัน ระบบ Dmi จะติดตั้งในรถเก๋งและรถอเนกประสงค์ประเภทครอสโอเวอร์โครงสร้างจากเก๋ง หรือ Monocoque เท่านั้น
จึงมีความเป็นไปได้ที่กระบะรุ่นที่ 2 ของ BYD จะเป็นรถกระบะจากพื้นฐานรถเก๋ง หรือ คนไทยชอบแซวว่า “กระเบ๋ง” เป็นรถกลุ่มใหม่ที่เริ่มขายในต่างประเทศ และได้รับความนิยม สำหรับคนมองหากระบะใช้งานทั่วไป ไม่ได้ใช้งานเชิงพาณิชย์บรรทุกหนัก
ตลาดนี้เคยมีในไทย และตายหายไป หลังจากการทำตลาดของรถยนต์ Nissan NV ปัจจุบันมีเพียง รถกระบะไฟฟ้า Riddara RD 6 เป็นขวากหนามเดียวในตลาดนี้ แม้ว่าจะมีแผนสำหรับทำตลาดรุ่นไฮบริด
แถม ค่ายญี่ปุ่นยังไม่มีทางป้องกันตลาดนี้ เนื่องจากยังไม่มีผลิตภัณฑ์เข้ามาตอบโจทย์ และยังไม่ใช่เร็วๆนี้
คาดราคาขาย ไม่ข้ามล้านต้น
ข้อสำคัญอีกด้าน คือ ความเป็นไปได้ในการทำราคาขายตามเป้าหมาย กลยุทธหลักของทาง BYD เรียกคนเข้าแบรนด์
การใช้เทคโนโลยี DMi ร่วมกับรถยนต์รุ่นอื่น ย่อมทำให้ราคาของรถรุ่นนี้ไม่น่าจะสูงนัก และไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่มากเท่าไร
จากภาพที่หลุดออกมา ตัวรถมีขนาดราวๆ BYD Sealion 6 ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ราคาพื้นฐานของมัน อาจจะอยู่ในเรทใกล้เคียงกัน
อาจจะมีการใช้ภายในที่มีงานออกแบบคล้ายกัน เพื่อทำให้ต้นทุนการพัฒนาไม่สูงมากนัก และทำงานได้เร็วขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ Riddara ได้ตั้งราคามาตรฐานของรถกระบะจากเก๋งยุคใหม่ไว้เรียบร้อย ราคาของ Riddara RD6 รุ่นท๊อป ขับเคลื่อนสี่ล้อ (ซึ่งเรายังไม่รู้ว่ารุ่นนี้ BYD จะมีไหม) คือ 1.3 ล้านบาท
ทำให้ ว่าที่กระบะใหม่ BYD จะทำราคาแพงกว่านี้ไม่ได้ และตามนิสัยของแบรนดื จะทำราคาต่ำกว่าคู่แข่งเสมอ
ไม่เพียงเท่านี้ BYD อาจได้โชค 2 ชั้น จากการเตรียมส่งเสริมการใช้รถยนต์ PHEV ในอนาคต ทำให้ราคาของมันจะยิ่งน่าสนใจมากขึ้น จนอาจทำราคาในระดับเดียวกับ Sealion 6
เล่ามาถึงตรงนี้ ต้องยอมรับว่า กระบะ BYD รุ่นใหม่ ขุมพลัง DMi คันนี้ ค่อนข้างน่าสนใจอย่างมาก มันจะเป็นกระบะที่เหมาะทั้งใช้งานในเมือง และเดินทางไกล ตอบสนองการใช้งานแบบไลฟ์สไตล์จริงจัง
การล่าถอยครั้งนี้ ไม่ใช่การยกธงขาว แต่คือถอยไปตั้งหลัก แล้วเจาะตลาดใหม่ที่ค่ายญี่ปุ่นเอง ยังไม่ทำตลาด ยึดหัวหาดทางความคิด ที่มีเพียง Riddara ขวางทางพวกเขา !!
การวิเคราะห์ และข้อมูลนี้ เป็นบทความของ Ridebuster ห้ามนำเสนอ เปลี่ยนแปลงทำซ้ำ โดยไม่รับอนุญาต
เรื่องโดย ณัฐพิพัฒน์ วรโชติโกศล