ค่ายรถ MG คราวนี้มาแปลกส่ง MG S6 EV มาให้ทาง EURO NCAP ทดสอบการชนก่อนขายจริงจากปกติเปิดตัวแล้วจะมาทดสอบทีหลัง
โดยการทดสอบการชนครั้งนี้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว ผ่านการประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ อย่างเข้มงวด ดังนี้
การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection) อยู่ที่ 92% การปกป้องผู้โดยสารเด็ก (Child Occupant Protection) อยู่ที่ 85% การปกป้องความเสี่ยงของผู้ใช้ถนน (Vulnerable Road Users) อยู่ที่ 84% และ ประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย (Safety Assist) อยู่ที่ 78%
แม้ผ่านมาตรฐานระดับ 5 ดาวแล้ว ทำให้สาวกอีวีต่างมั่นใจและพร้อมเป็นเจ้าของด้วยดีไซน์ยกมาจากรุ่นน้อง MG S5 EV ตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED ทรงเรียบง่าย ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED กันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศแบ่ง 2 ฝั่งประดับด้วยคิ้วชายล่างสีดำใต้กันชนหน้า
ด้านข้างเท่ด้วยราวหลังคาดีไซน์บิ๊วอินน์พร้อมพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ ที่เปิดประตูดีไซน์หรูแบบดึงก้าน คิ้วชายล่างประตูทรงหรู ล้ออัลลอยขนาด 19-20 นิ้ว ด้านท้ายมีไฟท้าย LED แนวยาวคาดด้านท้ายพร้อมตรา MG และยังสามารถเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้าสร้างจากแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน Modular Scalable Platform (MSP) ออกแบบมาโดยเฉพาะกับรถไฟฟ้า เหมือน MG4 Electric และ MG S5 EV
ขุมพลังไฟฟ้ามีการเปิดเผยแล้วว่าเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) 62.2kWh 245 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NCM) 77kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้กำลังรวม 362 แรงม้า จากมอเตอร์ล้อหน้า 162 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลัง 245 แรงม้า สามารถลากจูงได้สูงสุด 1,500 กิโลกรัม
มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ผสานกับการวางตำแหน่งแบตเตอรี่ที่ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำลง (Low Centre of Gravity) ส่งผลให้การยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม เพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้งและการเร่งแซง เบื่องต้นเตรียมเปิดตัวที่ยุโรปและออสเตรเลีย ครึ่งปีแรกของปี 2026 ส่วนไทยจับตาว่าจะมาหรือไม่ต้องติดตาม