Home » Isuzu ยืนยัน “D-Max EV” เตรียมเปิดสายการผลิตในไทยไตรมาส 3 ปีนี้
ข่าวสารยานยนต์ ข่าวในประเทศ

Isuzu ยืนยัน “D-Max EV” เตรียมเปิดสายการผลิตในไทยไตรมาส 3 ปีนี้

หลังการเผยโฉมครั้งแรก ของ Isuzu D-Max EV ในงาน Motor Show 2024 เมื่อต้นปีที่แล้ว ล่าสุดทางผู้บริหารก็ได้มีการออกมาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมว่าตัวรถได้ใกล้พร้อมแล้วสำหรับการเปิดไลน์ผลิตร่างขายจริง โดยจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Isuzu D-Max EV ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยพื้นฐานโครงสร้างร่วมกับ Isuzu D-Max ขุมกำลังดีเซลที่เราคุ้นเคยกันดี และด้วยขุมกำลังที่เปลี่ยนไป ดังนั้นหน้าตาของมันจึงถูกปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย

โดยหากอิงตามภาพรวม ตัวรถจะใช้พื้นฐานของรุ่นตัวถัง 4 ประตู ยกสูง และมีการหยิบเอาชิ้นส่วนของรุ่น V-Cross เข้ามาในหลายๆจุด ทั้งในส่วนของ ชิ้นแผ่นปิดปลายฝากระโปรงหน้า, กรอบช่องดักลมที่กันชนหน้า, และกระจังหน้าซึ่งถูกปรับรายละเอียดใหม่เล็กน้อย ด้วยการปรับสีแถบกระจังหน้าจากสีเงิน-เทาเข้ม เป็นสี เงิน-น้ำเงิน แทน และมีการเพิ่มแถบเส้นสีน้ำเงินเอาไว้ใต้แนวไฟ DRL ในโคมไฟหน้า และแปะโลโก้ EV เอาไว้ที่แก้มข้าง กับฝาท้าย

นอกนั้นจะมีการใช้ชุดล้อ ที่ติดรถ ก็เป็นชุดล้อแบบเดียวกับรุ่น V-Cross เช่นเดียวกับราวหลังคา และบันใดข้างสีดำ แต่จะยังไม่มีการใส่ตัวครอบขอบกระบะเข้ามาใดๆทั้งสิ้น

ด้านงานออกแบบและตกแต่งภายในห้องโดยสาร ทางผู้บริหารยังไม่ได้มีการเผยภาพออกมา แต่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคของรถเอาไว้ว่า มันจะมาพร้อมกับ น้ำหนักตัวที่มากถึง 2,350 กิโลกรัม โดยยังรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ 1,010 กิโลกรัม และน้ำหนักในการลากจูงสูงสุดอีก 3,500 กิโลกรัม ซึ่งใกล้เคียงกับตัวรถรุ่นขุมกำลังดีเซล

ส่วนหัวใจสำคัญคือ ขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 190 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 (Full Time 4WD) ด้วยระบบ e-Axles และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แบตเตอรี่ แบบลิเธียม ไอออน มีขนาด 66.9 kWh รองรับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 263 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP Combined หรือขยับขึ้นเป็น 361 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP แบบ City Mode พร้อมรองรับการชาร์จไฟผ่านระบบ DC กำลังสูงสุด 50 kW ซึ่งช่วยให้แบตฯสามารถชาร์จไฟจาก 20-80% ได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง

โดย Isuzu D-Max EV จะเริ่มเปิดไลน์ผลิตในประเทศไทยช่วงไตรมาสสาม ปีนี้ และในล็อตแรก จะยังคงเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย ก่อนที่จะตามด้วยรุ่นพวงมาลัยขวาที่จะถูกส่งนำไปทำตลาดในประเทศอังกฤษก่อนในช่วงไม่เกินปลายปีนี้

ส่วนประเทศไทย คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่อย่างช้าที่สุดก็คาดว่าจะไม่เกินช่วงต้นปีหน้า ลูกค้าที่สนใจจึงจะได้สัมผัสและจับจองรถมาใช้งานกัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.