GWM ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องสำหรับการดำเนินธุรกิจในไทยสู่ปีที่ 5 ด้วยการสร้างสถิติยอดขายรวมในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ได้ดีกว่าปีก่อนถึง 96% ท่ามกลางกระแสข่าวความมั่นใจต่อแบรนด์จีนที่ถาโถมหนักนานนับปี

GWM ประกาศความสำเร็จอย่างแข็งแกร่งในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ด้วยยอดขายรวมสูงถึง 8,804 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มียอดขายอยู่ที่ 4,490 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 96% สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยต่อผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์
โดยสำหรับตัวรถที่เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ยอดขายรถยนต์ของ GWM พุ่งสูงในระดับนี้ ก็แน่นอนว่าจะต้องเป็น NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งมาพร้อมกับจุดขายคือหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากรถอเนกประสงค์คันอื่นๆในตลาดอย่างชัดเจน ผสานความลงตัวกับการใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ชาวไทย ทั้งสายลุย และสายเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ส่งผลให้ NEW TANK 300 DIESEL ขึ้นแท่นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของ GWM ด้วยยอดขายสะสมในช่วง 7 เดือน (มกราคม – กรกฎาคม 2568) ที่ 3,183 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยอดขายในเดือนกรกฏาคม ที่มียอดรวมสะสมมากถึง 1,028 คัน ซึ่งนับเป็นสถิติยอดขายในหนึ่งเดือนที่สูงที่สุดของ GWM นับตั้งแต่มีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยไปโดยปริยาย

โดยยอดขายของ GWM ในช่วงระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา จะประกอบไปด้วย ยอดขายจากรถ GWM ORA จำนวน 4,218 คัน (48%), GWM TANK 3,473 คัน (39%), และ GWM HAVAL 1,103 คัน (13%)
หรือหากแบ่งข้อมูลยอดขาย ออกเป็น รถยนต์ 3 โมเดลแรกของ GWM ที่ขายดีที่สุดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ก็จะเริ่มกันที่ ORA Good Cat ซึ่งยังคงครองสัดส่วนสูงสุดถึง 3,573 คัน หรือคิดเป็น 40% ของยอดขายรวม โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 175% ตามมาด้วย GWM TANK 300 DIESEL 3,183 คัน และเจ้าเหมียวไฟฟ้าสายสปอร์ตซีดาน ORA 07 กับยอดขาย 645 คัน
ด้านปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมยอดขายรถยนต์ของ GWM ให้เติบโตเป็นอย่างดีในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้บริหารระบุว่าเกิดขึ้นแนวคิดในการทำตลาดแบบ “User-centric” หรือการรับฟังเสียงของผู้บริโภคและลูกค้าชาวไทยเพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง
ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์รถยนต์ของทาง GWM มักมีการปรับเปลี่ยนออพชันต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆอยู่เสมอ เช่น All New HAVAL H6 ที่ได้มีการปรับระบบช่วงล่างใหม่ ให้มีความกระชับ มั่นใจยิ่งขึ้น พร้อมอัปเกรดระบบปฏิบัติการภายในรถ (UX/UI) ด้วย Coffee OS 3.0 และ Petal Map ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูงใช้งานง่ายกว่าเดิม
หรือตัวเลือกเครื่องยนต์ 2.4T เอง ในทั้ง TANK 300 DIESEL และ TANK 500 DIESEL ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ดีของการตั้งใจฟังเสียงลูกค้าชาวไทย ว่าพวกเขาต้องการรถอเนกประสงค์ที่ใช้ขุมกำลังแบบไหน ทาง GWM ก็พร้อมที่จะรับฟังและตอบสนองความต้องการนั้นเสมอ
อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมยอดขายได้ดีไม่แพ้กัน คือเรื่องการให้ความสำคัญกับงานบริหารหลังการขาย ทำให้ล่าสุดทาง GWM กลายเป็น แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมอันดับ 3 จากทั้งหมด 12 แบรนด์ ที่ถูกประเมินด้านความพึงพอใจของบริการหลังการขายประจำปี 2567 โดย Differential บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะเลือกซื้อรถยนต์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี