หลายคนอาจคิดว่า เดิมที Ford Ranger Raptor ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่มีพละกำลังระดับ 400 แรงม้า (โดยเฉลี่ย) ซึ่งถือว่ามากพอแล้ว แต่ในสายตาของสำนักแต่ง Killa Conversions & Performance กลับไม่ได้รู้สึกว่ามันจะเป็นเช่นนั้น

นั่นจึงทำให้สำนักแห่งนี้ เกิดผุดไอเดียสร้างโปรเจ็กท์สุดระห่ำขึ้น นั่นคือการ เอาเครื่องยนต์ Coyote V8 5.0 ลิตร Gen3 ที่อยู่ใน Ford Mustang GT 5.0 กำลังสูงสุด 460 แรงม้า มาจับวางลงไปในห้องเครื่องยนต์ของ Ford Ranger Raptor แทนเครื่องยนต์ EcoBoost V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่มีพละกำลังระดับ 400 แรงม้า

ซึ่งแน่นอนว่าจากตัวเลขกำลังสูงสุดข้างต้น หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันก็เพิ่มแรงม้าแค่เพียง 60 ตัวเองหนิ แต่ในความเป็นจริง ทาง Enter Killa Conversions ยังได้มีการติดตั้งซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ของแบรนด์ Roush เข้าไปอีก จนทำให้เครื่องยนต์ V8 ลูกใหม่ที่ใส่เข้าไป สามารถเบ่งพลังได้ถึง 750 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดที่มากถึง 908 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเลขแรงม้าและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์ลูกเดิมของ Ranger Raptor ถึงเกือบเท่าตัว

และด้วยระดับพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นมหาศาล ทำให้ทางสำนักต้องปรับแต่งระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดใหม่ ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ การปรับแต่งทั้งหมดเหล่านี้ ไม่ได้รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกา์อื่นใดของรถมากนัก และทำให้ลูกค้ายังคงสามารถใช้งานลูกเล่นระบบควบคุม และโหมดการขับขี่ต่างๆของรถ เหมือนตอนที่ออกโรงงานมาได้ทุกระบบ ซึ่งเข้าใจว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเครื่องยนต์ลูกใหม่ที่ใส่เข้าไป มันก็เป็นของ Ford อยู่แล้วนั่นเอง

ส่วนใครที่สงสัยว่า แล้วทำไมทางสำนักถึงไม่เล่นใหญ่ ไปเอาเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนามาเพื่อรถยนต์ตระกูล Raptor เหมือนกัน เช่นเครื่องยนต์ EcoBoost V6 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ ของ Ford F-150 Raptor หรือเครื่องยนต์ Carnivore V8 5.2 ลิตร พ่วงซุปเปอร์ชาร์จ ของ Ford F-150 Raptor R มาใช้ นั่นก็เพราะในทางสำนักไม่สามารถหาเครื่องยนต์เหล่านี้ได้ในออสเตรเลีย เพราะทาง Ford Australia ไม่ได้มีการนำรถ F-150 Raptor/Raptor R ไปขายในแดนจิงโจ้เหมือน Mustang GT V8 5.0 นั่นเอง

ส่วนราคาในการปรับแต่งตัวรถ รวมของทุกอย่าง ทางสำนักระบุว่าจะใช้งบประมาณที่ 89,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย หรือราวๆ 1,870,000 บาท (หรือถ้ารวมราคารถใหม่ๆคันนึ่งด้วย ก็จะอยู่ที่ราวๆ 179,000 ดอลล่าร์ ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3.77 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย กับการได้ขุมกำลังที่มีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นมา เทียบเท่า F-150 Raptor R โดยที่ระบบและฟังก์ชันทุกอย่างยังคงทำงานได้ปกติ แถมยังดูเหมือนว่ารถจะถูกเซ็ทอัพเอาไว้ดีมาก จนนักขับทดสอบเอง ก็ไม่ได้รู้สึกว่ารถจะมีปัญหาอะไรในการควบคุมจากน้ำหนักเครื่องยนต์ที่มากขึ้น