เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า FIREFLY อีวีจิ๋ว 5 ประตูในเครือ NIO เตรียมทำตลาดเวอร์ชันพวงมาลัยขวา ทั้งในสิงคโปร์ไทย อังกฤษ ออสเตรเลีย

โดยนาย แดเนียล จิน ซีอีโอของ FIREFLY ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สว่า FIREFLY เตรียมจะเข้าสู่ตลาดไทยและอังกฤษในปี 2026 เนื่องจากบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายการดำเนินงานในประเทศที่ไม่มีอุปสรรคด้านภาษีในระยะสั้น

ด้านราคาขอย้ำว่า FIREFLY ที่ผลิตในจีนจะมีภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 31% ในสหภาพยุโรป ดังนั้นจึงมีราคาแพงกว่าในจีนถึงสองเท่า

โดยตลาดพวงมาลัยขวาเป็นตลาดที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเปิดเผยว่าเราจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค อาจทำให้ยอดขาย FIREFLY ในภูมิภาคเหล่านี้ช่วงแรกอาจชะลอตัว เนื่องจาก บริษัทกำลังเจรจากับผู้จัดจำหน่าย แม้ยอดจดทะเบียนในนอร์เวย์ ตลอดปีนี้ทำได้เพียง 19 คัน กลายเป็นสิ่งที่ท้าทายในการสร้างแบรนด์สำหรับตลาดอื่นๆที่เป็นพวงมาลัยขวา

ภายนอกเด่นด้วยไฟหน้า LED วงกลมสามดวงพร้อมกระจังหน้าสีดำ มีฝากระโปรงหน้าสั้นและเสา C กว้างที่เปลี่ยนเป็นหลังคาได้อย่างลงตัว กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังรถนอกจากนี้ยังรองรับการจอดรถในทุกสถานการณ์พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 215/50 R18 และหลังคารถสีดำเป็นออปชันเสริม ฝาท้ายไฟฟ้า โดยตัวรถยาวแค่ 4 เมตร

ชุดคอนโซลหน้าทรงคิวท์ประกอบด้วยคอนโซลหน้าเป็นจอลอย 2 จอ ประกอบด้วยจอมาตรวัดความเร็วสีแบบ LCD ชนาด 6 นิ้ว จอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 13.2 นิ้วรองรับเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

พร้อมลำโพง 14 จุดระบบเสียง Dolby Atmos 7.1 กำลังขับ 640W น้ำหอมปรับอากาศในรถช่วยให้บรรยากาศภายในสดชื่น หอม พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายใน 256 สีรอบคัน Ambient Light ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W

เสริมสบายทั้ง เบาะนั่งด้านหน้าอุ่นเบาะ มีเบาะเย็น และนวดได้ เบาะนั่งปรับไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 6 ทิศทางและมีหน่วยความจำเบาะนั่งฝั่งคนขับ พร้อมโทนสี 4 สีทั้ง สีเบจ Travertine สีชาเขียว Pine สีน้ำตาล Plum และสีเทาเข้ม Obsidian พร้อมวัสดุหุ้มเบาะทำจากผ้า และหนังสังเคราะห์ไมโครไฟเบอร์

ขุมพลังไฟฟ้าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้าแรงบิด 200 นิวตันเมตร ทำงานร่วมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 41.2 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 330 กิโลเมตร (WLTP) ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.2 วินาที

ชาร์จได้ทั้ง AC 11 kW และ DC 100 kW รองรับ V2L (Vehicle-to-load) กำลังไฟ 3.68 kW ให้คุณชาร์จอุปกรณ์ต่างๆได้ รวมถึงโหมด One-Pedal

พร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทช่วงล่างหลังแบบ 5 Link กระจายน้ำหนักอย่างสมดุลในอัตราส่วนเท่ากัน 50:50 และระบบเบรกจากทาง Bosch กับ Integrated Brake System (IPB) และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS 15 รายการ

จับตา FIREFLY จะสามารถเปิดตัวในไทยตามแผนปีหน้าได้หรือไม่และจะถูกใจคนไทยมากน้อยแค่ไหนนั้นทาง Ridebuster จะมานำเสนอในครั้งต่อไป