ถ้าชาวไทยรู้จักแบรนด์ CHERY ก็จะรู้จักรถเล็กสุดน่ารักอย่าง CHERY QQ รุ่นโด่งดังเมื่อ 10 กว่าปีเรียกว่าสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก

แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างของค่ายสุดท้ายก็ต้องกลับจีนไปในที่สุด และเมื่อปีกลาย CHERY คัมแบ็คเมืองไทยอีกครั้งผ่านการเปิดแบรนด์ลูก OMODA & JAECOO นำโดย OMODA C5 EV JAECOO 6 EV และ JAECOO 7 SHS ปีนี้พร้อมแล้วที่จะปลุกผีแบรนด์แม่ CHERY ให้กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง

โดยการนำแบรนด์ CHERY กลับเข้าสู่ตลาดประเทศไทเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย สร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับผู้บริโภคชาวไทย แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ

โดยเมื่อปีที่แล้ว CHERY มียอดขายเติบโตถึง 38% พร้อมส่งมอบรถยนต์กว่า 2.6 ล้านคันทั่วโลก คิดเป็นยอดรายได้ที่เติบโตขึ้นกว่า 50% ประมาณ 2.2 ล้านล้านบาทไทย และยังรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของประเทศจีนมายาวนานกว่า 22 ปีติดต่อกันนั้น

ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อยนตรกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และเพื่อเป็นทำความรู้จักของแบรนด์นี้ รวมถึงนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างเช่นเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) โดยรถใหม่ที่มีแนวโน้มแนะนำและขายในไทยทั้ง CHERY และแบรนด์ลูกอย่าง OMODA&JAECOO เริ่มที่ CHERY ประกอบด้วย Chery Arrizo 8L, Chery Tiggo 9 และ Chery Tiggo Cross

CHERY ARRIZO 8 L เก๋งใหญ่พลังปลั๊กอินไฮบริดดีไซน์แตกต่างจากเวอร์ชันสันดาปขับเคลื่อนล้อหน้า พกพลัง 1.6 ลิตร เทอร์โบ 156 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมต รจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.3 kWh

เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 145 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 140 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จได้ทั้ง DC 30-80% ภายใน 19 นาที และ AC 3 ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.6 วินาทีคาดมาไทยปีหน้า

ส่วนที่จะขายไทยปีนี้ มี 2 รุ่นทั้ง CHERY TIGGO 9 เอสยูวี 3 แถวพลังปลั๊กอินไฮบริดขับเคลื่อนล้อหน้า 1.6 ลิตร เทอร์โบ 156 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมต รจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เริ่มที่ล้อหน้า 102 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร และล้อหลัง 122 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 19.43 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.9 วินาที

และ CHERY TIGGO Cross เอสยูวีเล็กมาแปลกกว่ารุ่นอื่นด้วยพลังฟูลไฮบริด 1.5 ลิตร 102 แรงม้า แรงบิด 125 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1.837 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 10.8 วินาที

นอกจากนี้แบรนด์ OMODA&JAECOO มีการส่งรุ่นใหม่ขุมพลังไฟฟ้าล้วน ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด SHS เข้ามาทั้ง OMODA C7 SHS OMODA C5 SHS และ iCAR 03T ยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจกับ iCAR V23

iCAR V23 ทรงกล่องพลังอีวีล้วนเลือกได้ทั้งรุ่นขับหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว รุ่น Standard Range ความจุแบตเตอรี่ 59.93 kWh 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC รุ่น Long Range ความจุแบต 81.76 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 550 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport

รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับสี่ เพิ่มมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 75 แรงม้า แรงบิด 112 นิวตันเมตร ผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน ให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 292 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 501 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport, Snow ,Mud, Sand ในระบบ iWD intelligent electric 4-wheel drive 6 โหมด

CHERY และ OMODA & JAECOO ในประเทศไทย พร้อมประกาศความเคลื่อนไหวสำคัญของแบรนด์ ความคืบหน้าโรงงาน รวมถึงการกลับมาของแบรนด์ CHERY จับตาการมาครั้งนี้จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆให้กับวงการรถยนต์มากน้อยแค่ไหนนั้นติดตามกันได้ในวันที่ 15 พฤษภาคม