Home » BYD คอนเฟิร์มทำ Shark 6 ร่างพิเศษ หวังสู่ Ford Ranger Raptor
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

BYD คอนเฟิร์มทำ Shark 6 ร่างพิเศษ หวังสู่ Ford Ranger Raptor

BYD Shark 6 อาจถูกเผยโฉมครั้งแรกด้วยตัวรถร่าง 4 ประตู ขุมกำลัง PHEV เพียงเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเช่นนั้นไปตลอด

จากการเปิดเผยข้อมูลกับสื่อ Drive.com.au ของนาย Said Hasan หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ BYD Australia ระบุว่าอันที่จริงแล้ว ทางบริษัทไม่ได้มีแผนจะวางจำหน่ายตัวรถ BYD Shark 6 แค่เฉพาะรุ่นที่เป็นตัวถังห้องโดยสาร 2 ตอน ขุมกำลัง PHEV สมรรถนะเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วๆไป ออกลุยได้นิดๆหน่อยเท่านั้น

แต่ทางค่ายยังได้มีการเดินโปรเจ็กท์พัฒนาตัวรถในรุปแบบอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อีกด้วย

“ตัวรถรุ่นตอนเดี่ยว อยู่ในแผนงานของเราอยู่แล้ว, และจะมีรุ่นที่ถูกปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อรองรับการใช้งานเพื่อการพานิชย์, ทำเป็นม้างานหนัก, และมีร่างสำหรับการใช้งานสมบุกสมบันก็ด้วย” Hasan กล่าว

“ทุกเส้นทางที่คุณคิดออกว่ามันจะเป็นไปได้, เรากำลังทำมันอยู่”

จากข้อความข้างต้น สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการทำรถร่างพร้อมลุย ซึ่งในตอนนี้หากเจาะจงไปที่ตลาดประเทศออสเตรเลีย เหล่าผู้ผลิตที่ทำรถกระบะขายในประเทศดังกล่าว จะต้องมีการทำร่างพร้อมลุยออกมาขายเพื่อแข่งกันอย่างเต็มที่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Mazda BT-50 Thunder Pro, Isuzu D-Max Blade, Nissan Navara Warrior, หรืออีก 2 โมเดลที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดีอย่าง Toyota Hilux Revo GR Sport และ Ford Ranger Raptor

ทำให้คงไม่แปลกนักหาก BYD จะอยากทำ Shrak 6 มาแข่งขันด้วย และมันคงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก เพราะอย่างน้อยที่สุด ขุมกำลัง PHEV ที่ติดอยู่กับตัวรถ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์อีก 2 ตัว ก็สามารถให้กำลังสูงสุด ได้มากถึง 436.5 แรงม้า PS และมีแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกคันที่ไล่เรียงมา ไม่เว้นแม้แต่ Ranger Raptor รุ่นขุมกำลัง V6 ก็ตาม

ที่เหลือคือทางค่าย ต้องไปจัดการกับเรื่องของการออกแบบช่วงล่าง ให้เหมาะสำหรับการบุกตะลุยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยกสุง การติดตั้งโช้คอัพช่วงยุบเยอะ การใช้ล้ออัลลอยด์ชุดใหม่ ซึ่งรัดด้วยยางกึ่งหนาม ก็เท่านั้น

แต่หากพวกเขาอยากจะเล่นใหญ่แบบ Ranger Raptor กับ Hilux (REVO) GR Sport จริงๆ ก็จะต้องมีการโมดิฟายตัวถัง และเปลี่ยนแปลงระบบกลไกช่วงล่างเพิ่มเติม รวมถึงเซ็ทอัพชุดระบบส่งกำลังและอัตราการตอบสนองของขุมกำลังและระบบขับเคลื่อนใหม่อีก

ซึ่งทั้งหมดก็คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาสักหน่อย และต้องคอยดูกันต่อไป ว่ามันจะออกมาน่าสนใจ ประมือกับคู่แข่งได้อย่างสมน้ำสมเนื้อแค่ไหนกัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.