หลังจากเปิดสเปกเปิดรับจอง Pre-Sales แล้วสำหรับ AION UT น้องเหวี่ยงพลังอีวีล้วนล่าสุดได้เดินทางมาจากจีนมายังเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย

AION UT ที่นำเข้ามาเป็นล็อตแรกสำหรับลูกค้าที่จองไปตั้งแต่งาน Bangkok Motor Show 2025 มากกว่า 4,568 คัน โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Milan Design Aesthetics ผสมผสานศิลปะและเทคโนโลยีอย่างลงตัว พร้อม Winky Headlight และ Matrix Cube Light ที่สะท้อนความมีชีวิตชีวาและทันสมัยในทุกมุมมอง
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางด้วยพื้นที่แถวหลังถึง 1,385 มิลลิเมตร พร้อมเบาะแบบ Butterfly-shaped Seat มอบความสะดวกสบายในการนั่งโดยสาร และยังสามารถปรับพับเบาะนั่งคู่หน้าเปลี่ยนห้องโดยสารเป็นเตียงนอนได้ตามต้องการพร้อมระบบควบคุมด้วยเสียงรองรับภาษาไทยและอังกฤษ
ด้านเทคโนโลยีมาพร้อม Magazine Battery 2.0 ซึ่งปลอดภัยสูงสุด ทนต่อแรงบิด 180 องศาโดยไม่เกิดประกายไฟหรือความร้อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าเริ่มที่รุ่น Standard ให้กำลังถึง 136 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตันเมตร มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 50 kWh วิ่งไกลต่อการชาร์จมากกว่า 400 กิโลเมตร (NEDC) กับ รุ่น Premium ให้กำลังถึง 204 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 60 kWh วิ่งไกลต่อการชาร์จมากกว่า 500 กิโลเมตร (NEDC)
ทั้ง 2 รุ่นชาร์จเร็ว DC 30-80% ด้วยกำลังการชาร์จสูงสุด 60 kW ภายใน 24 นาที และยังชาร์จช้า AC ได้ รวมถึงฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดายด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 3.3kW และ i-pedal ให้ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีโหมดการขับขี่ทั้ง Economy/Standard/Sport
มาพร้อมระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 (L2 Intelligent Driving) ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC with Stop & Go), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD), ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าแข็งแรงสูงคิดเป็น 71% ของตัวถัง
AION UT มีกำหนดการเปิดตัวพร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มิถุนายน มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Standard และรุ่น Premium