Home » Toyota Hilux Travo ผ่านมาตรฐาน ANCAP ระดับ 5 ดาว
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Toyota Hilux Travo ผ่านมาตรฐาน ANCAP ระดับ 5 ดาว

ด้วยความเป็นรถยนต์ซึ่งต้องถูกส่งไปปวางจำหน่ายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทำให้ Toyota Hilux Travo รุ่นใหม่ ต้องถูกนำไปเข้าสถาบันทดสอบความปลอดภัยอย่าง ANCAP ด้วย และผมลัพท์ที่ได้ออกมา ก็คือรถได้ผ่านมาตรฐานการทดสอบในระดับ 5 ดาว พร้อมคะแนนในแต่ละหมวดที่ไม่น้อยกว่า 82% เลย แม้แต่หมวดเดียว

จากรายงานผลการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยของ Toyota Hilux Travo โดย ANCAP ซึ่งจะใช้ชื่อ Toyota Hilux เฉยๆเท่านั้น สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เผยให้เห็นว่าเจ้ากระบะรุ่นนี้ สามารถทำผลคะแนนในการทดสอบทั้ง 4 หมวดได้ออกมาค่อนข้างดีมาก โดยจะแบ่งรายละเอียดได้ดังนี้

  • หมวดความปลอดภัยต่อผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ : คะแนน 33.96/40 หรือคิดเป็น 84%
  • หมวดความปลอดภัยต่อผู้โดยสารที่เป็นเด็ก : คะแนน 44/49 หรือคิดเป็น 89%
  • หมวดความปลอดภัยต่อผู้ร่วมใช้ถนน : คะแนน 52.16/63 หรือคิดเป็น 82%
  • หมวดความปลอดภัยจากระบบช่วยเหลือขั้นสูง : คะแนน 14.83/18 หรือคิดเป็น 82%

ซึ่งจากการทำคะแนนในแต่ละหมวดการทดสอบได้ไม่น้อยกว่า 80% จึงทำให้รถรุ่นนี้ได้ผ่านมาตรฐานการทดสอบ ANCAP ในระดับ 5 ดาว ไปในท้ายที่สุด

หากให้ขยายความกันอีกนิด ตัวรถ Toyota Hilux ที่ถูกนำไปทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยโดยหน่วยงาน ANCAP ครั้งนี้ จะเป็นตัวรถรหัสรุ่นย่อย SR5 ซึ่งเป็นรุ่นย่อยตัวบนเกือบสุด มีลูกเล่นครบทุกฟังก์ชันเท่าที่ Hilux ซึ่งถูกส่งไปวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะมีให้ แค่ไม่ได้รับการติดตั้งชุดแต่งใดๆเพิ่มเติมมากนักเหมือนรุ่น Rouge ที่วางจำหน่ายในทั้งสองประเทศ หรือรุ่น Travo Outlander ที่วางจำหน่ายในบ้านเรา

และจะมาพร้อมขุมกำลังดีเซล ไมล์-ไฮบริด แบบ 4 สูบเรียง เทอร์โบ 2.8 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลท์ พร้อมตัวถังแบบ 2 ตอน มีกระบะท้าย กับสปอร์ตบาร์ขนาดกำลังดีทางด้านหลังเท่านั้น

โดยทาง ANCAP ระบุว่า ตัวรถรุ่นนี้ สามารถปกป้องผู้โดยสารภายในรถ จากทั้งการชนด้านหน้าตรง และด้านข้าง จากโครงสร้างที่แข็งแรงได้เป็นอย่างดี และตัวถุงลมทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ตรงกลาง และที่หัวเข่า ซึ่งให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดรถคันที่ถูกนำมาทดสอบ ก็สามารถทำงานได้ดีในทุกรูปแบบการชน

ซึ่งตัวผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้าจะมีความเสี่ยงจะได้รับบาดเจ็บ บริเวณลำตัว ลำคอ หน้าหน้าแข้งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากการทดสอบการชนทางด้านหน้าตรง และหน้าเยื้อง ที่ความเร็ว 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมถึงการทดสอบการชนเข้าเสากลางลำตัวรถที่ความเร็ว 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ส่วนผู้โดยสารเด็กที่นั่งบนเบาะโดยสารตอนหลัง แบบมีอุปกรณ์ Car Seat ทั้งฝั่งผู้โดยสารที่เป็นเด็กเล็ก อายุ 6 ขวบ และผู้โดยสารเด็กโต อายุ 10 ขวบ ตัวรถกลับสามารถปกป้องหุ่นจำลองผู้โดยสารทั้ง 2 ประเภทนี้ได้ดีแบบแทบไม่มีรอยขีดข่วนใดๆ หากเบาะนั่ง Car Seat ถูกติดตั้งไว้บนตำแหน่งที่มีกลไก ISOFIX อย่างถูกต้องจริงๆ

ด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้ถนนร่วมกัน ทั้งคนเดินเท้า รถจักรยาน และมอเตอร์ไซค์ ในส่วนตัวรถจะถูกออกแบบให้มีชิ้นส่วนที่สามารถซับแรงกระแทกต่อผู้ที่ถูกชนได้ค่อนข้างดี ในบริเวณที่มักปะทะเข้ากับผู้ถูกชน ได้แก่ ชช่วงกันชนหน้าด้านล่าง, ฝากระโปรงหน้าตรงกลาง, และกระจกบานหน้าเป็นต้น

แต่ก่อนหน้าที่จะมีการปะทะกัน ระบบช่วยเหลือต่างๆที่ให้มาแบบรอบคัน ก็สามารถทำงานได้ดี โดยเฉพาะในส่วนของระบบช่วยเบรกฉุกเฉินเมื่อมี วัตถุ มนุษย์ หรือยานพาหนะพุ่งเข้ามาในทิศทางต่างๆที่รถกำลังมุ่งไป ไม่ว่าจะเป็นหน้าตรง หน้าเฉียง หรือตัดหน้าแบบกระทันหัน ด้วยการทดสอบที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

นั่นจึงทำให้รถสามารถทำคะแนนด้านความปลอดภัยในส่วนต่างๆเหล่านี้ได้ดี โดยอาจจะมีการหักคะแนนแค่เพียงเรื่องของฟีเจอร์ความปลอดภัยบางรายการที่ตกหล่นไป เช่นระบบป้องกันการใช้คันเร่งผิดวิธีขณะถอยหลัง ที่ยังไม่มีมาให้, ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับที่มีแค่การแจ้งเตือน เท่านั้น เป็นต้น

ข้อมูลจาก ANCAP

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.