ขณะที่ GWM TANK 300 Diesel กำลังได้รับความนิยมในไทย ฝั่ง TANK 500 รุ่นพี่ของมันเองก็กำลังจะได้รับการปรับโฉมใหม่เช่นกัน

GWM TANK 500 ถูกพบว่ามันกำลังมีร่างทดสอบ เพื่อเก็บข้อมูลออพชันใหม่ๆที่จะถูกใส่เข้าไปในตัวรถเวอร์ชันปี 2026 ในประเทศจีนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งจากภาพที่เราแนบไว้ข้างต้น ทางสื่อ CarNewsChina ระบุว่า ตัวรถ TANK 500 ที่ถูกแปะสติ๊กเกอร์พรางตาเป็นจุดๆคันนี้ มีความแตกต่างจากตัวรถ TANK 500 เคยเห็นและรู้จักกันดีหลายแห่ง
เริ่มจากหลังคา ที่มีส่วนนูนโผล่ขึ้นมาเหนือแนวกระจกหน้า ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันคือตำแหน่งที่มีการติดตั้ง LiDar Sensor สำหรับตรวจจับวัตถุต่างๆทางด้านหน้ารถในแบบที่รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ใช้กัน นอกนั้นยังมีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ ให้แถบแนวนอนมีความเสมอกันทุกชั้น
และยังดูเหมือนว่ามันจะมีการทำแนวยื่นออกมาช้อนถึงใต้ไฟหน้า ทำให้ชิ้นแก้มข้างตัวรถเอง ก็ต้องเปลี่ยนงานดีไซน์ใหม่เช่นกัน จากนั้นก็มีการปรับรายละเอียดชุดล้อใหม่เล็กน้อยเพื่อสร้างความแตกต่างจากตัวรถเวอร์ชันปัจจุบันให้มากขึ้น

ในส่วนภายในห้องโดยสาร ตัวคอนโซลหน้ายังคงมีงานออกแบบที่คล้ายเดิม แต่ตัวพวงมาลัยมีการปรับงานออกแบบใหม่ ให้ดูทะมัดทะแมงมากขึ้น และปรับงานออกแบบคอนโซลกลาง โดยสิ่งที่สังเกตได้คือ คันเกียร์แบบคริสตัลสุดโดดเด่นได้หายไป เหลือไว้แต่แผงปุ่มกด และสวิทช์กระดก 2 ตำแหน่ง ซ้าย-ขวา
นอกนั้นแหล่งข้อมูลต้นทาง ยังระบุว่า ทาง GWM จะทำการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่ ให้รถสามารถซับแรงกระแทกจากหลุมบ่อต่างๆบนผิวถนนได้ดียิ่งขึ้น และอัพเดทระบบซอฟท์แวร์ทั้งฝั่งระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบจัดการการทำงานของระบบขับเคลื่อน กับกราฟฟิกการแสดงผลใหม่
ด้านขุมกำลังจะยังคงมีให้เลือก 3 แบบ เช่นเดิม สำหรับตลาดในประเทศจีน นั่นคือ
- เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบ Mild Hybrid ให้กำลังรวมสูงสุด 360 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Plug-In Hybrid ให้กำลังรวมสูงสุด 408 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร พร้อมใช้ระบบขับเคลื่อน Hi4-T และสามารถวิ่งด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าล้วน 110 กิโลเมตร/ชาร์จ
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Plug-In Hybrid สถาปัตยกรรมการจ่ายไฟ 800 โวลท์ ให้กำลังรวมสูงสุด 864 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1195 นิวตันเมตร พร้อมใช้ระบบขับเคลื่อน Hi4-Z และสามารถวิ่งด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าล้วน 201 กิโลเมตร/ชาร์จ
ส่วนการปรับโฉมในประเทศไทย คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัวในประเทศจีนไม่นานนัก ซึ่งเราอาจจะได้เห็นกันในอีกไม่เกิน 1 ปีนับจากนี้ก็เป็นได้