Suzuki เผยโฉม Carry / Super Carry รุ่นใหม่พร้อมการประกาศราคาขายจริงอย่างเป็นทางการ โดยคราวนี้เน้นไปที่การเปลี่ยนเปลือกนอกใหม่ให้ดูดีขึ้น ใส่ลูกเล่นเพื่อความทันสมัยเข้าไป ในราคาที่ยังคงย่อมเยาสำหรับชาวญี่ปุ่นดังเดิม

ย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทาง Suzuki ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการเผยภาพของ Carry และ Super Carry รุ่นใหม่ปี 2026 ซึ่งทำให้เราได้รับรู้ว่าคราวนี้ตัวรถจะมาพร้อมกับการปรับโฉมหน้าใหม่ ด้วยการยกตำแหน่งติดตั้งไฟหน้าและกระจังหน้าให้สูงขึ้น พร้อมปรับรูปทรงกรอบไฟหน้าใหม่
จากที่เคยเป็นโคมสี่เหลี่ยมทรงสูง (เวอร์ชัน JDM) ให้เป็นแบบกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน ซึ่งจะมีความจิกหน่อยๆ และเปลี่ยนหลอดไฟด้านในให้เป็นแบบ Projector LED รวมถึงเปลี่ยนกระจังหน้าให้เป็นแบบแถบคาดขนาดใหญ่ระหว่างไฟหน้า แล้วให้ช่องดักลมสำหรับเป่าเครื่องยนต์เป็นหน้าที่ของช่องขนาดใหญ่ที่กันชนหน้าด้านล่างไปแทน
สิ่งที่แตกต่างกันอีกนิดหน่อย คือในฝั่งรถ Super Carry ซึ่งมีตู้โดยสารแบบหลังคาสูง ตอนครึ่ง จะมีการทำจะใช้แผ่นปิด และแผ่นกรอบกระจังหน้าสีดำเงา เพื่อเพิ่มความดุดัน นอกนั้นในจุดอื่นๆล้วนยังคงเดิม ทั้งในส่วนของกรอบห้องโดยสาร กับกระบะท้ายแบบราบ
นอกนั้นในส่วนการตกแต่งภายในห้องโดยสาร มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดนิดหน่อย ทั้ง กรอบจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว ที่ดูสวยงามขึ้น เช่นเดียวกับกรอบจอมาตรวัดหน้าคนขับ ที่มีความเป็นเหลี่ยมสันมากกว่าเดิม
จากนั้นยังมีการเพิ่มช่องวางแก้วน้ำซ้าย-ขวา, และปรับดีไซน์ครึ่งล่างของคอนโซลหน้าใหม่ให้ผู้ใช้สามารถวางของจุกจิกได้ง่ายขึ้น และยังมีแผงสวิทช์คุมลูกเล่นต่างๆใส่มาให้อย่างชัดเจน พร้อมปรับเพิ่มมือจับขึ้นรถสำหรับฝั่งผู้โดยสาร หรือหากผู้ขับไม่มีใครนั่งไปด้วย ก็สามารถพับเบาะด้านข้างให้เป็นโต๊ะสำหรับวางแล็ปท็อป หรือกินข้าวขณะพักเดินทางได้อีก
ส่วนเทคโนโลยีที่ถูกเพิ่มเข้ามา ก็จะมีทั้ง ระบบ Dual Sensor Brake Support II AEB, Lane Departure Prevention, Sign Recognition, Start Notification Function, Emergency Stop signal, และ Parking sensors ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
ขุมกำลังตัวรถ จะยังคงอิงความเป็นรถเคคาร์ แม้มันจะมีหน้าตาเน้นแบกหาม ด้วยการวางเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 658cc ซึ่งมีกำลังเพียง 50 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 59 นิวตันเมตร เท่านั้น โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ ว่าจะให้มันจับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ก่อนถ่ายกำลังลงไปยังชุดล้อคู่หลัง หรือชุดล้อทั้ง 4 ซึ่งออพชันหลังจะมีกลไกระบบล็อคเฟืองท้ายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเพิ่มได้อีก พร้อมระบบช่วยเคลื่อนรถออกจากโคลน ซึ่งก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถคลายความกังวลใจขณะใช้รถคันนี้ไปบุกตะลุยได้มากขึ้น
โดยกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของตัวรถรุ่นนี้ ถูกระบุว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 มกราคม ปี 2026 และจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,172,600 เยน หรือราวๆ 234,500 บาท ในรุ่นล่างสุด ไปจนถึง 1,800,700 เยน หรือราวๆ 360,000 บาท ในรุ่นท็อป Super Carry Special Edition X Limited 4WD
หรือถ้าไม่พอ ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อรถที่มาพร้อมกับตู้เย็นสำหรับเก็บสินค้าได้อีก ซึ่งจะสนนราคาแพงสุดที่ 2,658,700 เยน หรือราวๆ 532,000 บาท
ส่วนในไทย ดูเหมือน Suzuki ประเทศไทย จะยังคงวางจำหน่ายด้วยรถหน้าเดิม แบบที่เราคุ้นชินกันต่อไปป เนื่องจากต้องอ้างอิงทิศทางการตลาดกับประเทศอินโดนีเซีย ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะปรับโฉมรถใหม่ในเร็วๆนี้เช่นกัน








