Home » Subaru Uncharted ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าไซส์ Crosstrek (XV)
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

Subaru Uncharted ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าไซส์ Crosstrek (XV)

Subaru พยายามอย่างหนักเพื่อขยายฐานลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้า โดยหลังจากทำ Subaru Trailseeker ซึ่งเป็นพี่คนโตที่ใหญ่กว่า Solterra ตอนนี้ก็ถึงเวลาของ Subaru Uncharted ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กกว่า พอๆกับ Subaru Crosstrek บ้าง

Subaru Trailseeker ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานแพลตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งหมายความว่ามันยังคงเป็นรถที่ทางค่ายทำงานร่วมกับทาง Toyota และในขณะเดียวกันก็ทำให้เราสามารถสังเกตได้ว่ารถที่มีโมเดลใกล้เคียงกันมากที่สุดก็คือ Toyota C-HR+ ที่ถูกเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะสัดส่วนตัวรถต่างๆโดยเฉพาะงานออกแบบหลังคาและสันไหล่กับโป่งซุ้มล้อ ตามด้วยคิ้วซุ้มล้อและชายล่างประตู ล้วนใกล้เคียงกัน หรือจะเรียกว่าเหมือนกับเปี๊ยบก็ยังได้

ส่วนด้านหน้ารถมีจุดเปลี่ยนคือ โคมไฟด้านบนที่เคยเป็นทรง Hammer Head ให้เป็นโคมไฟชิ้นเต็มอันเดียว และใส่ดวงไฟ DRL 6 ดวงเข้าไป โดยที่ตัวโคมไฟดวงหลักจะถูกแบ่งไว้ด้านล่างในกรอบช่องดักลมขนาดใหญ่ที่กันชนหน้า ซึ่งแอบดูลงตัวกว่าคู่แฝดร่างเดียวกัน

จากนั้นจะมีการติดตั้งแร็คหลังคาทรงเตี้ยด้านบน ปรับงานออกแบบฝาท้ายใหม่ โดยแม้จะยังมีสปอยเลอร์แบบแยกส่วนด้านบน แต่แถบไฟท้ายได้ถูกปรับใหม่เพรียวบางมากขึ้น ไม่ได้เป็นชิ้นเต็มตลอดแนว และกันชนท้ายจะถูกออกแบบให้มีความเป็นชิ้นตันมากกว่า เพื่อรองรับการปะทะ ไม่ได้เป็นครีบรีดอากาศแต่อย่างใด

เมื่อภายนอกใกล้เคียงกันมากขนาดนั้น ภายในห้องโดยสารเอง ก็แทบไม่ได้มีความแตกต่าง ทั้งงานออกแบบคอนโซลหน้า, หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 14 นิ้ว พร้อมแผงควบคุมระบบปรับอากาศทางด้านล่าง, หน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถแบบกึ่งลอยตัวหน้าผู้ขับ, แท่นวางโ?รศัพท์พร้อมระบบชาร์จไร้สาย 2 ตำแหน่ง และอื่นๆอีกมากมาย

ที่ดูแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ก็จะมีเพียงพวงมาลัยแบบตัดบน-ล่าง และเบาะนั่งที่หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์กันน้ำ โดยหากเป็นรุ่นบน จะมาพร้อมระบบระบายความร้อนสะสมในตัวเบาะ และยังมีออพชันกระจกมองหลังอัจฉริยะ กับชุดลำโพงเครื่องเสียงจาก Harman Kardon มาให้เลือกซื้ออีก

แบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะรุ่นกี่มอเตอร์ ก็จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 74.7 kWh เหมือนกันหมด โดยหากเป็นรุ่นที่ใช้งานร่วมกับมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 221 แรงม้า ก็จะมาพร้อมระยะทางในการใช้งานสูงสุดต่อชาร์จที่ 492 กิโลเมตร

และหากเป็นรุ่นที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Symetric-AWD พร้อมระบบ X-Mode ก็จะให้กำลังสูงสุด 338 แรงม้า ช่วยให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 5.0 วินาที ซึ่งส่งผลให้ระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จลดลงมาเหลือ 467 กิโลเมตร

ด้านขีดความสามารถในการชาร์จไฟกลับ ก็เริ่มจากการที่ตัวรถจะมีพอร์ทชาร์จไฟแบบ NACS ตามมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา (หัวชาร์จของ Tesla) เพราะมันจะถูกประเดิมทำตลาดในประเทศดังกล่าวก่อนเป็นที่แรก และจะรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW ในโหมด AC Charge กับ 150 kW ในโหมด DC Charge ซึ่งด้วยการติดตั้งระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่แบบใหม่เข้าไป ทำให้มันสามารถชาร์จไฟจาก 10%-80% ได้ด้วยเวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น

ด้านราคาวสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการยังไม่มีการเผยตัวเลขออกมา เพราะกำหนดการวางขายจริงของตัวรถคือช่วงปลายปีนี้ แต่คาดว่าในรุ่นเริ่มต้น อาจจะมีราคาเปิดที่ราวๆ 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 970,000 บาท เท่านั้น ซึ่งนับว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว หากมันถูกผลิตและนำมาทำตลาดในบ้านเราด้วยราคาที่น่ารักเช่นนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.