ออสเตรเลียพร้อมแล้วที่จะขาย Nissan Qashqai พ่วงพลัง e-Power เจเนอเรชันใหม่ หลังขายที่ยุโรปจนโกยยอดขายไปแล้วมากกมาย

ขุมพลังใหม่ครั้งนี้เป็น e-Power เจเนอเรชันที่ 3 แบบ 5-in-1 เป็นส่วนประกอบหลัก 5 อย่างที่พัฒนาขึ้นใหม่ ได้แก่ มอเตอร์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือเจเนเรเตอร์ อินเวอร์เตอร์ ตัวลดรอบ และระบบเกียร์ ไว้ในตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา 1.5 ลิตร 3 สูบ รหัส KH5T ให้กำลังถึง 158 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังถึง 205 แรงม้า ทำงานร่วมกันเน้นให้มอเตอร์ขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟเท่านั้น จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single speed constant ratio
พัฒนาใหม่ด้วยการใช้แนวคิดการเผาไหม้ STARC ทำให้สามารถรักษาเสถียรภาพของการเผาไหม้ภายในกระบอกสูบและประสิทธิภาพความร้อนได้ถึง 42% เครื่องทำงานได้เงียบและมีประสิทธิภาพแม้ที่ความเร็วต่ำ เทอร์โบลูกใหม่ขนาดใหญ่และอัตราส่วนการลดรอบสุดท้ายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถลดความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วสูงได้ประมาณ 200 รอบต่อนาที
พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 2.1 kWh พร้อมกันนี้ยังติดตั้งระบบ e-Pedal ซึ่งใช้คันเร่งในการกดเร่งแซงและชะลอความเร็วในชุดเดียวกันสามารถชะลอหยุดจนถึงจุดหยุดนิ่งคิดเป็นแรงจีมากถึง 0.2 G แต่ไม่ถึงหยุดสนิท พัฒนาให้แรงขึ้นมีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงมากถึง 16% ในยามขับขี่ในเมือง และดีขึ้น 14% เมื่อขับทางไกลต่างจังหวัด ไม่ง้อที่ชาร์จไฟฟ้า
ด้วยจุดเด่น 5 ประการ ดังนี้ ประหยัดขึ้นถึง 22.22 กิโลเมตรต่อลิดร (WLTP) น้ำมัน 1 ถังวิ่งไกลสุด 1,200 กิโลเมตร ปล่อยก๊าซ CO2 ต่ำเพียง 102 กรัมต่อกิโลเมตร ห้องโดยสารเงียบขึ้น 5.6 เดซิเบล และเพิ่มกำลังในโหมด Sport อีก 14 แรงม้า
พร้อมหน้าตาเดิม ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ลายรังผึ้งขนาดใหญ่พร้อมคิ้วโครเมียมแนวนอนกับโลโก้ นิสสัน พร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ที่ประกอบด้วยส่วนบนเส้นแนวนอนนั่นคือไฟเลี้ยวและไฟ DRL แบบ LED ทำงานร่วมกับไฟ DRL รูปตัวแอลห้าตัวใต้โคมไฟหน้า LED matrix ทรงสามเหลี่ยมดวงเล็ก ในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ไฟท้าย LED ดีไซน์บูมเมอแรงใหม่ เด่นไม่ซ้ำใคร ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ให้ความสบายในการขนถ่ายสัมภาระ
รวมถึงภายในปรับซอฟท์แวร์ระบบจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับรถได้อย่างลงตัว อาทิ Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google (มีจอสัมผัสขนาด 7 กับ 9 นิ้วให้เลือก) เชื่อมต่อความบันเทิงด้วย Nissan Connect รองรับ Apple CarPlay Android Auto มาตรวัดขนาดใหญ่แบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ 12.3 นิ้ว (มี 7 นิ้วให้เลือก) จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าสี head-up display ขนาด 10.8 นิ้ว โดยเตรียมขายที่ออสเตรเลียครึ่งปีแรกของปี 2026