ในงาน Japan Mobility Show 2025 นิสสัน ส่งรุ่นใหม่เปิดตัวครั้งแรกที่งานนอกจาก Nissan ELGRAND แล้วยังมี Nissan ARIYA รุ่นปรับโฉม
ปรับโฉมครั้งนี้ปรับครั้งแรกในรอบ 3 ปีของการจำหน่ายสิ่งที่เปลี่ยนไปเริ่มที่ กระจังหน้ารูปตัววีทรง “โล่ หรือ shield” จากเดิมไส้ในทรงทึบจะเป็นสีดำแต่เปลี่ยนเป็นสีเดียวกับตัวรถ ชุดกันชนหน้าออกแบบใหม่ ไม่มีคิ้วแนวตั้งสีดำ 2 ข้างอีกต่อไป
ไฟหน้า DRL LED โคมใหม่ทรงเลขเจ็ดไส้ในโคมเป็นแถบแนวตั้ง 3 เส้นสีขาว ส่วนบนยังเป็นไฟหน้า LED 4 ดวงเล็กเช่นเดิม ล้ออัลลอย 5 ก้านทรงใบพัดดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20
ภายในติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์พร้อมระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย ในชุดจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว
ขุมพลังไฟฟ้าคาดว่าคงเดิมทั้งรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า Standard Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาด 63 kWh ให้แรงม้า 218 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 385 กิโลเมตร (WLTP) ชาร์จทั้ง AC สูงสุด 7.4 kW 10-100% ภายใน 9 ชั่วโมง และ DC สูงสุด 130 kW 10-80% ภายใน 35 นาที (สูงสุด 50 kW 10-100% ภายใน 65 นาที)
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า Long Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาด 87 kWh ให้แรงม้า 242 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 504 กิโลเมตร (WLTP) ชาร์จทั้ง AC สูงสุด 22 kW 10-100% ภายใน 4.5 ชั่วโมง (สูงสุด 7.4 kW 10-100% ภายใน 12.5 ชั่วโมง) และ DC สูงสุด 130 kW 10-80% ภายใน 40 นาที (สูงสุด 50 kW 10-100% ภายใน 90 นาที)
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาด 87 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงสุด 395 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 487 กิโลเมตร (WLTP) ชาร์จทั้ง AC สูงสุด 22 kW 10-100% ภายใน 4.5 ชั่วโมง (สูงสุด 7.4 kW 10-100% ภายใน 12.5 ชั่วโมง) และ DC สูงสุด 130 kW 10-80% ภายใน 40 นาที (สูงสุด 50 kW 10-100% ภายใน 90 นาที)
และยังปรับปรุง Vehicle-to-Load (V2L) รวมถึงอัพเกรดช่วงล่างที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยจะเปิดตัวพร้อมกับ Nissan Elgrand เจนใหม่ที่งาน Japan Mobility Show 2025 ที่โตเกียวบิ๊กไซต์