Home » KIA Carens Clavis อเนกประสงค์ที่นั่ง 3 แถว ขนาดเล็กหน้าใหม่ประเดิมตลาดอินเดีย
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

KIA Carens Clavis อเนกประสงค์ที่นั่ง 3 แถว ขนาดเล็กหน้าใหม่ประเดิมตลาดอินเดีย

KIA ยังคงพยายามรุกตลาดในประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับตลาดรถอเนกประสงค์ที่นั่ง 3 แถว ขนาดเล็ก ด้วย KIA Carens Clavis ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

KIA Carens Clavis คือตัวรถไลน์อัพพรีเมียม ที่ต่อยอดมาจาก KIA Carens หนึ่งในรถอเนกประสงค์ยอดนิยมของประเทศอินเดีย ที่ขายมาตั้งแต่ปี 2021 โดยคราวนี้ มันได้ถูกปรับงานดีไซน์ใหม่ เพื่อให้ตัวรถดูมีความทันสมัยยิ่งกว่า โดยเฉพาะเรื่องของงานออกแบบ ที่ดูเหมือนจะใช้แรงบันดาลใจเดียวกันกับ KIA EV5 มาแบบรอบคัน

ไม่ว่าจะเป็นชุดกันชนหน้าแบบตัดเหลี่ยมพร้อมชายล่างบึกบึนอันเป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้าทรงสามเหลี่ยม ขนาบข้างด้วยแถบไฟ DRL ซึ่งมีการเชื่อมต่อวาดเส้นคาดเป็นแถบเดียวตลอดแนวใต้ฝากระโปรง นอกนั้นเส้นสายด้านข้างตัวรถยังคงคล้ายกับตัวรถรุ่นเดิม เว้นเพียงชุดล้อ 17 นิ้ว ที่มีการปรับลายใหม่ ให้เข้ากับภาพลักษณ์โดยรวม

และเช่นเดียวกัน งานออกแบบท้ายรถยังถูกปรับให้มีความเหลี่ยมสันมากขึ้น รวมถึงไฟท้ายเองก็ยังถูกปรับใหม่กราฟฟิกไฟ LED ข้างในดูทันสมัยขึ้นเช่นกัน แม้ว่ากรอบรอบนอกของมันจะยังดูคล้ายของเดิมก็ตาม และท้ายสุดคือการปรับดีไซน์กันชนท้ายใหม่ ให้ดูบึกบึนกว่าเดิม ซึ่งเป็นงานดีไซน์ในลักษณะเดียวกันกับกันชนหน้านั่นเอง

ภายในห้องโดยสารเอง ก็มีการปรับใหม่ ให้ใกล้เคียงกับรถยนต์ในตระกูล EV มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนคอนโซลหน้าที่ถูกปรับให้มีความมินิมอล และโอดโถงจากตัวผู้โดยสารแถวหน้ามากกว่าเดิม, พวงมาลัยเปลี่ยนเป็นแบบ 2 ก้าน และกรอบตัดหัวบนล่าง แบบที่รถยนต์โมเดลใหม่ๆรุ่นอื่นของแบรนด์ใช้กัน, เปลี่ยนหน้าจอเป็นขนาด 10.25 นิ้ว ทั้งในส่วนของจอแสดงผลข้อมูลตัวรถ กับจออินโฟเทนเมนท์ ซึ่งคั่นกลางด้วยจอแสดงผลสถานะระบบปรับอากาศอีกที

นอกนั้นก็จะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาคันเกียร์ตรงกลาง ให้มีขนาดใหญ่ เพื่อความกระชับในการจับของผู้ใช้ และเพิ่มลูกเล่นพรีเมียมต่างๆเข้ามา ทั้ง เบาะนั่งพร้อมระบบระบายอากาศ, ลำโพง Bose จำนวน 8 ตำแหน่ง, หลังคาพาโนรามิค, กล้อง 360 องศา, ระบบไฟแวดล้อมในห้องโดยสาร พร้อมทั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง ADAS ซึ่งมีขีดความสามารถของระบบขับอัตโนมัติในระดับ 2 หรือ Level 2

ด้านขุมกำลังยัง ยังคงอ้างอิงตามรุ่น Carens นั่นคือ มีให้เลือกทั้งรุ่นขุมกำลังเบนซิน 1.5 ลิตร ซึ่งหากเป็นรุ่นไร้ระบบอัดอากาศจะสามารถทำแรงม้าได้ 115 PS หรือหากเป็นรุ่นเทอร์โบ ก็จะเพิ่มกำลังสูงสุดขึ้นอีก เป็น 160 PS ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร เท่ากัน ก็จะมีกำลังสูงสุดที่ 116 PS ส่วนระบบส่งกำลังก็มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แต่ทั้งหมดจะทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

โดยตัวรถรุ่นนี้ เบื้องต้นดูเหมือนจะมีไว้เพื่อผลิตและวางจำหน่ายในประเทศอินเดียเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจคือ มันจะมีรุ่นที่ใช้ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วนตามออกมาด้วย ซึ่งหากทาง KIA ประเทศไทย มีความต้องการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราเพิ่ม ด้วยตัวรถรุ่นนี้ ซึ่งมีขนาดตัวกำลังเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองไทยของเราอย่างพอดิบพอดี ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.