Home » MG IM6 ปรับโฉมเอสยูวีหรูมาครบทั้ง EV และ EREV สำหรับเมืองจีน
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

MG IM6 ปรับโฉมเอสยูวีหรูมาครบทั้ง EV และ EREV สำหรับเมืองจีน

IM Motors เผยภาพอย่างเป็นทางการกับการปรับโฉมของ MG IM6 หรือ IM LS 6 ปรับครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปีของการจำหน่าย

ด้านหน้าใหม่ด้วยชุดไฟหน้า LED จากทรงรูปตัวเจรมดำมาเป็นรูปตัวทีรมดำทั้งแผงตั้งแต่ส่วนบนชุดไฟหน้า DRL ส่วนบนรูปตัวแอลพร้อมไฟ DRL ดวงเล็ก 4 จุด ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED แนวตั้ง

กระจังหน้าทรงทึบในชุดกันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมช่องระบายอากาศที่ใหญ่ขึ้น เสริมคิ้วโครเมียมใต้กันชนในบางรุ่นกรอบกระจกโครเมียมในบางรุ่น คิ้วชายล่างประตูสีดำในบางรุ่น กันชนหลังออกแบบใหม่โดยแผงทับทิมสะท้อนแสงออกแบบเป็นเส้นแนวนอนแทนแนวตั้งเดิมในชุดลิ้นสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาดใหญ่ 20-21 นิ้ว

ด้านข้างเท่ด้วย หลังคากระจกพาโนรามิก เซนเซอร์ LiDAR กระจกรถแบบไร้กรอบ Frameless แบบโอเปร่า ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle) ไฟท้าย LED รมดำดีไซน์รูปตัวเอยาวจากซ้ายไปขวารับกับฝาท้ายมีสปอยเลอร์ในตัวพร้อมฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ เตะเปิดอัตโนมัติ

ภายในยกเครื่องงานดีไซน์ด้วยชุดคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่หมดติดตั้งจอสัมผัสคู่แบบลอยตัวขนาดใหญ่ 5K อยู่ด้านหน้าผู้ขับขี่และตรงกลางคาดขนาด 26.3 นิ้ว และชุดจอสัมผัสระบบความบันเทิงและมีฝั่งคนนั่งความละเอียดชัดแบบ 3K

ชุดพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันมีทั้งแบบวงมาลัยตัดหัวตัดท้ายทรงล้ำยุคหรือ YOKE ไม่รบกวนการมองเห็นบนหน้าจอขนาดใหญ่และแบบปกติ 3 ก้านท้ายตัดให้เลือก ออกแบบคันเกียร์ที่คอพวงมาลัยใหม่มาพร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ที่วางแก้วน้ำสองช่อง และช่องเก็บของที่กว้างขวาง คอนโซลกลางมีปุ่มควบคุมต่างๆ มากมาย ส่วนแผงประตูของรถปรับปรุงใหม่มีปุ่มควบคุมแทนมือจับ มีซันรูฟแบบพาโนรามาและระบบเสียงขั้นสูงมีอัตราการใช้พื้นที่สูงสุดที่ 90% และเบาะนั่ง POPO Sofa ทรงขนมปัง พร้อมสัมผัสพรีเมียมโดยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์

มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อมีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อยเริ่มที่

  • รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Performance ให้กำลังรวมสูงสุด 787 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 3.48 วินาทีวิ่งไกลสุด 702 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ระบบไฟฟ้าแบบซิลิกอนคาร์ไบด์ ความจุแบตเตอรี่ลิเธียม 100 kWh แพลตฟอร์ม 800 V
  • รุ่น Super Extended Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 515 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 500 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 5.5 วินาที วิ่งไกลสุด 760 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ระบบไฟฟ้าแบบซิลิกอนคาร์ไบด์ ความจุแบตเตอรี่ลิเธียม 100 kWh แพลตฟอร์ม 800 V
  • รุ่นความจุแบตเตอรี่ลิเธียม 90 kWh Extended Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 450 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 5.9 วินาที วิ่งไกลสุด 680 กิโลเมตร (CLTC) จากแพลตฟอร์ม 400 V
  • รุ่นความจุแบตเตอรี่ 71 kWh Standard Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 314 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 450 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 5.9 วินาที วิ่งไกลสุด 560 กิโลเมตร (CLTC)

ทั้ง 4 รุ่นย่อยรองรับการชาร์จกระแสตรง DC ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 900 V โดยมีแรงดันไฟฟ้าขณะใช้งานสูงสุดที่ 875 V และเซลล์ในชุดแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้สูงสุด 396 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟ DC ภายใน 5 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตร และหากชาร์จ DC ภายใน 15 นาที สามารถทำระยะทางได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร

และขุมพลังใหม่ไฟฟ้าขยายระยะทาง EREV จากเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร รหัส 15FNE ทำหน้าที่ปั่นไฟให้กำลัง 155 แรงม้าส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง โดยกำลังสูงสุดอยู่ที่ 313 แรงม้า และความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 66 kWh ทั้งแบบ LFP และ NMC แบบสามเฟส วิ่งอีวีไกลสุด 450 กิโลเมตร และวิ่งได้ระยะทางรวมสูงสุด 1,500 กิโลเมตร เตรียมขายจีนเร็วๆนี้โดยรุ่น BEV เริ่มต้นถูกกว่า 209,900 YUAN หรือราว 949,000 บาท ส่วนรุ่นใหม่ EREV คาดราคาต่ำกว่า 200,000 YUAN หรือ 905,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.