กลายเป็นว่าปี 2025 คือปีของ Mercedes-Benz CLA อย่างแท้จริง เมื่อทางค่ายได้ทำการเปิดตัวรถรุ่นนี้ถึง 3 ครั้งใน 1 ปี และครั้งล่าสุดนี้ ก็คือการเปิดตัวรถรุ่นขุมกำลังสายกลางอย่าง “220 Hybrid” ออกมา
Mercedes-Benz CLA 220 Hybrid คือไลน์อัพใหม่ที่ทางค่ายจะประเดิมขายก่อนใครในทวีปยุโรป และแน่นอนว่ามันคือตัวรถที่จะคอยเสริมทัพอยู่ตรงกลางให้กับเหล่า CLA รุ่นย่อยอื่นๆที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะทั้งรุ่นที่ใช้ขุมกำลังสันดาปภายในล้วน หรือรุ่นขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วน ที่เปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปี
โดยสิ่งที่น่าสนใจสุดของตัวรถรุ่นใหม่นี้ ก็คือการที่ขุมกำลังฝั่งเครื่องยนต์สันดาปภายใน แบบเบนซิน 4 สูบเรียง เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร คือเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นโดยบริษัท Geely ในประเทศจีน ซึ่งมาพร้อมกับอัตราส่วนกำลังอัดที่สูงถึง 12 : 1 เพื่อการสันดาปน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
และยังมีวัฏจักรในการสันดาปแบบ Miller Cycle, ใช้ข้อเหวี่ยงอลูมิเนียมทั้งชิ้นเพื่อไล่เบา, พร้อมเคลือบสาร Nanoslide ในส่วนลูกสูบ และเคลือบสารลดแรงเสียดทานอื่นๆอีกในชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ที่มีการขยับเขยื้อนเพื่อลดแรงเสียดทานและเสริมความทนทานด้วยไปในตัว
ส่วนเทคโนโลยีภาคไฮบริด ก็คือการนำเครื่องยนต์ข้างต้น มาทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถขับเคลื่อนรถด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 1.3 kWh 48v ได้ตั้งแต่ความเร็วหยุดนิ่งจนถึง 96 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังสามารถสร้างแรงหน่วงขณะเบรกเพื่อชาร์จไฟกลับได้สูงสุด 25 kW
บทสรุปที่ได้ คือขุมกำลังทั้งหมด จะสามารถเค้นกำลังรวมกันได้มากสุดที่ 208 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดที่ 380 นิวตันเมตร ก่อนส่งกำลังไปขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 สปีด และสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.1 วินาที โดยมีขีดความสามารถในการรีดความเร็วสูงสุดได้ 209 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้จะมีน้ำหนักตัวมากถึง 1,630 กิโลกรัม ก็ตาม
ขณะที่งานออกแบบภายนอกตัวรถไม่ได้มีความแตกต่างไปจากรถร่างไฟฟ้า หรือสันดาปล้วนมากนัก นอกจากรายละเอียดชุดล้อเล็กๆน้อยๆ ภายในห้องโดยสารเอง ก็ยังคงมีงานดีไซน์คอนโซลที่ไม่ต่างจากเพื่อนๆเช่นกัน และอัดแน่นด้วยออพชันอย่าง หลังคากระจกพาโนรามิค กลาสรูฟ, หน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถขนาด 10.25 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนท์ขาด 14 นิ้ว เป็นต้น
ที่เปลี่ยนไปจริงๆ ก็จะมีเพียงชุดพวงมาลัย ที่มีการเปลี่ยนรายละเอยดงานออกแบบนิดหน่อย และมีการเพิ่มก้านกดคุมระบบ Cruise Control ที่ต่างออกไป เพราะยกมาจาก GLC EV รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวได้ไม่นาน และมีการเพิ่มปุ่มลูกบิดปรับระดับเสียงเพลงเข้ามาด้วย เพื่อลดความน่ารำคาญใจในการใช้งานปุ่มสัมผัสซึ่งใช้งานยากเกินไปในหลายเวลา
ส่วนการเปิดตัว CLA Hybrid ในประเทศไทย คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ เนื่องจากในตอนนี้ดูเหมือนว่าทาง Mercedes-Benz ประเทศไทย จะเน้นการทำตลาดรถ All-New Mercedes-Benz CLA ด้วยไลน์อัพ “250+ with EQ Technology” ภายในต้นปีหน้าก่อน หลังจากได้รับกระแสยอดจองในงาน Motor Expo 2025 ไปอย่างถล่มทลายนั่นเอง