เรียกว่าเป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 4 ปีของการทำตลาดสำหรับ Hyundai STARIA ประเดิมตลาดที่แรกที่เกาหลีใต้ก่อนทยอยปรับในแต่ละประเทศ

ถ้ามองผิวเผินเจ้าหม้อทอดคันนี้แทบไม่มีการปรับอะไรแต่ถ้ามองลึกๆแล้วปรับในส่วนไส้ในของช่องระบายอากาศทรงตาข่ายใหม่มีทั้งแถบสีดำและแถบสีเงินโครเมียมอย่างชัดเจนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
ชุดไฟหน้า LED ทั้งโคมลูกเต๋า 8 ดวง และทรงธรรมดา ถูกจัดวางในตำแหน่งชายกันชนหน้าระดับแนวขอบยางด้านบนและเหนือขึ้นไปกับไฟ DRLs เพิ่มลูกเล่นด้วยการปักชื่อ STRAIA บนแถบไฟ ลากยาวต่อเนื่อง สองฝั่งคล้ายกับแว่นตาของหุ่นยนต์
ล้อลายเดิมทั้งขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/65R17และขนาด 18 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง 235/55R18 กระจกบานหน้าขนาดใหญ่และลาดเอียงขึ้นไปถึงแนวหลังคาด้านบน ด้านท้ายติดตั้งไฟ LED แบบ Parametric Pixel ดีไซน์ในแบบตารางๆ พร้อมเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ฝั่ง

ภายในใหม่หมดตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าที่ช่องแอร์ออกแบบใหม่ตรงมุมคนนั่งไม่มีส่วนโค้ง จอมาตรวัดดิจิตอลจากขนาด 10.25 นิ้ว ขยับขึ้นมาเป็น 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบความบันเทิงมาแบบลอยตัวขนาดใหม่ 12.3 นิ้วจากเดิม 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto แบบไร้สาย ทำงานฉับไวขึ้นผ่านซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดจากการอัปเดตแบบ OTA (Over-the-air)
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงใหม่ พร้อมแป้นกดแตรที่มีจุดกลม 4 จุด ดีไซน์ย้อนยุค 80 ปุ่มการทำงานของจอสัมผัสและเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกส่วนซ้าย-ขวา (ปรับแยกกระจายความเย็นอิสระหน้า–หลัง) ออกแบบปุ่มทั้งหมุนและปุ่มกดดีไซน์ใหม่แบบ Physical Controls ใช้งานง่ายแทนปุ่มแบบระบบสัมผัส
มีถาดเก็บของด้านหน้าใต้แผงคอนโซลหน้า เพิ่มมือจับเสา A เพิ่มฝั่งคนขับเพื่อให้ขึ้นลงสะดวกขึ้น มีคันเกียร์ใหม่มาแบบคอพวงมาลัยและแบบดั้งเดิมเป็นก้านคันเกียร์ในบางรุ่น

มีช่องชาร์จ USB แบบ Type C และ Type A พร้อมระบบชาร์จมือถือไร้สาย (Wireless Charger) เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold พร้อมลำโพง 6 จุดและ 12 จุดจาก BOSE กุญแจรีโมท Smart Keyless Entry พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจ Remote Engine Start มาแบบ 11 ที่นั่งในรุ่น Modern และ Smart แบบ 7 ที่นั่งในรุ่น Lounge และ 3 ที่นั่งเวอร์ชันขนของ Cargo

ขุมพลังมีทั้ง เบนซิน V6 Smartstream G 3.5 MPi ให้กำลัง 240 แรงม้า แรงบิด 314 นิวตันเมตร รองรับการใช้ก๊าซ LPG คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Paddle Shift
กับเบนซินฟูลไฮบริด Smartstream G 1.6 T-GDi ให้พลัง 180 แรงม้าแรงบิด 265 นิวตันเมตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 60 แรงม้า แรงบิด 264 นิวตันเมตรพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion Polymer ความจุ 1.49 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวมสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดรวม 367 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Paddle Shift
ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนเวอร์ชันอีวีล้วนยังไม่มีขายในตอนนี้ ใช้ช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สันสตัรทด้านหน้าและด้านหลังแบบมัลติ-ลิงค์ ปรับเซตใหม่พร้อมบูชซับเฟรมในรุ่น Cargo และ Modern และ Smart ส่วนรุ่น Lounge ใช้บูชแบบไฮดรอลิกเพิ่มความนุ่มนวลตลอดการเดินทางที่ดีกว่า

โดยเปิดรับจองแล้วที่เกาหลีใต้เริ่มต้น 32,590,000-48,760,000 วอนเกาหลีหรือราว 695,000-1,039,000 บาท พร้อมสีใหม่สีน้ำเงิน Classy Blue Pearl และสีแดงเข้ม Galaxy Maroon Pearl